‘Minions’ คว้าแชมป์หนังทำเงินสุดสัปดาห์วันชาติสหรัฐฯ: คำในข่าว “banana”

Despciable Me 2 Minions in Manhattan

พาดหัวข่าวของเอพี ระบุว่า ‘Minions’ set box office on fire with $108.5 million debut หมายความว่า ภาพยนตร์เรื่อง ‘Minions’ ทำบ็อกซ์ออฟฟิศลุกเป็นไฟด้วยรายได้เปิดตัว 108.5 ล้านดอลลาร์

ข่าวนี้เล่าถึงภาพยนตร์แอนิเมชันขบวนการตัวป่วนสีเหลืองขวัญใจมหาชนภาคล่าสุด Minions: The Rise of Gru เป็นแม่เหล็ก ให้พ่อแม่ผู้ปกครองชาวอเมริกันหอบลูกจูงหลานไปชมกันในสุดสัปดาห์วันชาติสหรัฐฯ กวาดรายได้เปิดตัว 108.5 ล้านดอลลาร์หลังจากที่เข้าฉายในแถบอเมริกาเหนือ ตามประมาณการณ์ของค่ายหนัง Universal Pictures เมื่อวันอาทิตย์ และคาดว่าจะทำได้รายได้สุดสัปดาห์แรกแตะ 127.9 ล้านดอลลาร์ภายในวันชาติสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน

Minions: The Rise of Gru พาย้อนกลับไปในยุคคริสต์ทศวรรษที่ 1970 ในช่วงที่ 'กรู' ในวัยเด็กมีความฝันอันยิ่งใหญ่ในการเป็นจอมวายร้าย และได้พบกับ มินเนียน ตัวป่วนสีเหลือง จนสานสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกัน

ภาพยนตร์เรื่องนี้ เตรียมขึ้นแท่นภาพยนตร์ที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดในช่วงสุดสัปดาห์วันชาติสหรัฐฯ โดยสถิติเดิมคือภาพยนตร์ “Transformers: Dark of the Moon” ที่ทำรายได้ 115.9 ล้านดอลลาร์ในสุดสัปดาห์แรกที่เข้าฉายเมื่อปี 2011

สำหรับอันดับหนังทำเงินประจำสัปดาห์วันชาติสหรัฐฯ ภาพยนตร์ Top Gun: Maverick หล่นมาอันดับสองที่รายได้ 25.5 ล้านดอลลาร์ อันดับสามภาพยนตร์ตำนานราชาเพลงร็อค Elvis ได้ไป 19 ล้านดอลลาร์ อันดับสี่ Jurassic World: Dominion กวาดรายได้ 15.7 ล้านดอลลาร์ และอันดับห้า The Black Phone ทำรายได้ 12.3 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์วันชาติอเมริกัน อ้างอิงจากข้อมูลของ Comscore

คำในข่าวสัปดาห์นี้ เสนอคำว่า to go bananas ในข่าว แปลว่า ตื่นเต้นขั้นสุด จากเนื้อหาในข่าวนี้ที่ว่า

Families went bananas for Minions this weekend at the movie theater.

หมายความว่า ครอบครัวต่างตื่นเต้นขั้นสุดกับเหล่ามินเนียนที่โลดแล่นในโรงภาพยนตร์สัปดาห์นี้

กลับมาดูคำว่า banana ที่เป็นคำนาม แปลว่า กล้วย หรือกล้วยหอม ในบทสนทนาระหว่างคู่สามีภรรยากัน ตัวอย่างเช่น

Wife: Honey, can you pick up a bunch of very ripe bananas from the supermarket?

Husband: Sure. I really hope there will be banana bread coming out of the oven sometime this week.

หมายความว่า

ภรรยา: ที่รัก คุณช่วยซื้อกล้วยหอมสุกงอมหนึ่งหวีจากซูเปอร์มาร์เก็ตได้ไหมจ๊ะ?

สามี: แน่นอนจ้ะ ผมหวังว่าจะมีเค้กกล้วยหอมกรุ่นจากเตาในช่วงสัปดาห์นี้นะ

คำว่า banana ยังปรากฏอยู่ในหลายสำนวนภาษาอังกฤษ

ก่อนที่ Banana Republic จะเป็นเเบรนด์เสื้อผ้าดัง มีการใช้ banana republic ในการเรียกประเทศขนาดเล็กในอเมริกากลางที่ส่งออกสินค้าเกษตรเป็นรายได้หลัก ซึ่งเป็นคำที่มีความหมายเชิงด้อยค่ากลุ่มประเทศนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น

The Minister of Foreign Affairs told the Prime Minister he should offer an apology after calling a neighboring country a banana republic.

หมายความว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศบอกกับนายกรัฐมนตรีให้ออกมาขอโทษหลังเรียกประเทศเพื่อนบ้านว่าเป็น “banana republic”

อีกคำหนึ่ง banana oil นอกจากจะเเปลตรงๆ ว่าเป็นสารสกัดจากกล้วยหอมแล้ว ยังเป็นสแลง ที่แปลว่า คำสรรเสริญเยินยอที่เกินจริง หรือ อวย นั่นเอง ไปดูการใช้คำนี้ในบทสนทนาระหว่างเดวิดกับแจ็คเกอลีน ตัวอย่างเช่น

David: Your apple pie is the best. You should publish the recipe.

Jaqueline: Thank you. But it's obviously burned. You don't have to feed me banana oil.

หมายความว่า

เดวิด: พายแอปเปิลของเธอนี่ยอดเยี่ยมที่สุดเลยอ่ะ เธอควรจะเผยแพร่สูตรอาหารนี้นะ

แจ็คเกอลีน: ขอบคุณนะ แต่ว่าขนมมันไหม้ชัด ๆ เลยอ่ะ เธอไม่ต้องอวยฉันขนาดนั้นก็ได้จ้ะ

มาดูสำนวน to slip on a banana skin หรือ to slip on a banana peel แปลว่า ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่พลาดพลั้ง น่าอาย เหมือนกับเหยียบเปลือกกล้วยลื่นหัวคะมำ ไปดูการใช้สำนวนนี้ในประโยคกัน ตัวอย่างเช่น

Every move Deborah has made was calculated to serve her goal of becoming the next CEO, while her enemies look forward to taking advantage of a situation when she may slip on a banana skin.

หมายความว่า ทุกย่างก้าวที่เดบอราห์เดินถูกคำนวณไว้หมดแล้วเพื่อเป้าหมายในการเป็นซีอีโอคนต่อไป ขณะที่ศัตรูของเธอรอคอยที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่เธออาจพลาดพลั้งขึ้นมา

ส่งท้ายคำในข่าววันนี้ ด้วยคำคมจาก นอรา เอฟรอน (Nora Ephron) นักเขียนบทภาพยนตร์ชาวอเมริกัน ซึ่งเคยกล่าวเอาไว้ว่า

When you slip on a banana peel, people laugh at you; but when you tell people you slipped on a banana peel, it's your laugh. So you become the hero rather than the victim of the joke.

หมายความว่า เมื่อคุณพลาดพลั้ง ผู้คนหัวเราะเยาะคุณ แต่เมื่อคุณบอกคนอื่นว่าคุณพลาดพลั้งไป นั่นคือมุกตลกของคุณ ดังนั้นคุณจะกลายเป็นฮีโร่มากกว่าตกเป็นเหยื่อของเรื่องตลกนี้