รายงานขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก เรื่อง Status of the Climate หรือสถานภาพของบรรยากาศโลก ที่เพิ่งเผยแพร่ออกมา กล่าวว่าปีที่แล้วเป็นปีที่อากาศร้อนเป็นอันดับที่หก นับตั้งแต่มีการบันทึกอุณหภูมิโลกเป็นต้นมา และเตือนว่าแนวโน้มระยะยาวของอุณหภูมิอากาศที่ห่อหุ้มโลกยังจะสูงขึ้นต่อไปอีกด้วย
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือ World Meteorological Organization (WMO) กล่าวว่า 13 ใน 14 ปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่บันทึกไว้ คือ 13 ปีแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 21 นี้ และว่าในช่วงสามสิบปีที่ผ่านมา อากาศในแต่ละทศวรรษร้อนเพิ่มขึ้นมาตลอด โดยช่วงทศวรรษระหว่างปี 2544 ถึง 2554 เป็นช่วงที่ร้อนที่สุด
นาย Michel Jarreau เลขาธิการของ WMO บอกกับ Voice of America ว่า อุณหภูมิของปีที่แล้ว ยืนยันแนวโน้มที่ว่าอุณหภูมิอากาศโลกยังจะสูงขึ้นต่อไป
เลขาธิการองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกบอกว่า นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 เป็นต้นมา ปีที่คิดว่าหนาวเย็นที่สุดนั้น จริงๆ แล้วยังอุ่นกว่าอุณหภูมิในปีใดๆ ก่อน 2541 และจะเอามาใช้เป็นหลักฐานกล่าวอ้างว่า บรรยากาศโลกไม่ร้อนขึ้นอีกต่อไปนั้น ไม่ได้ และว่าอากาศในสหรัฐและแคนาดาที่หนาวเย็นนั้น ไม่ได้หมายความว่า บรรยากาศโลกไม่เปลี่ยนแปลง เพราะในขณะเดียวกัน ส่วนอื่นๆ ของโลกมีอากาศร้อนกว่าปกติ
รายงานฉบับนี้ของ WMO ให้รายละเอียดเกี่ยวกับน้ำแข็งที่ขั้วโลก น้ำทะเลที่อุ่นขึ้น ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และความเข้มของแก๊สเรือนกระจกพืช ซึ่งเกี่ยวโยงกัน และบ่งชี้ว่า บรรยากาศที่ห่อหุ้มโลกกำลังเปลี่ยนแปลง
รายงานฉบับนี้กล่าวว่า ในปีที่แล้วมีฝนตกในเอเชียมากกว่าปกติ ในขณะที่เกาะอังกฤษก็มีหน้าหนาวที่มีฝนมากกว่าปกติเมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 250 ปีที่ผ่านมา ส่วนภาวะแห้งแล้งอย่างหนักในรัฐ California ในแถบ Sahel ซึ่งอยู่ทางใต้ของทะเลทราย Sahara แต่อยู่เหนือทุ่งหญ้าของ Sudan และประเทศต่างๆ ในตอนใต้ของทวีปแอฟริกานั้น เชื่อมโยงกับอากาศร้อนจัดในออสเตรเลีย
รายงานอ้างความเห็นของนักอุตุนิยมวิทยาที่กล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ที่ทำให้บรรยากาศห่อหุ้มโลกเปลี่ยนไป เลขาธิการของ WMO ได้กล่าวแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือด้วย
เขาบอกว่า ที่ทำให้เป็นห่วงคือ เมื่อเร็วๆ นี้ มีน้ำแข็งใหม่เกิดขึ้น ที่บางมาก และจะรับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและบรรยากาศโลกได้ไม่ดีนัก ซึ่งก็เป็นหลักฐานอีกอันหนึ่งที่บ่งชี้ว่าโลกกำลังร้อนขึ้น และจริงๆ แล้ว ปริมาณน้ำแข็งที่ขั้วโลกยังลดลงต่อไปอีกด้วย ซึ่งทำให้วิตกกังวลกันมาก
เลขาธิการของ WMO บอกส่งท้ายว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากว่า จะมีสภาพอากาศ El Nino ซึ่งเป็นปฏิกิริยาระหว่างบรรยากาศกับมหาสมุทร และส่งผลกระทบต่อสภาพดินฟ้าอากาศของโลกได้เกิดขึ้นในปลายปีนี้ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ปี 2557 นี้ ก็จะเป็นปีที่อากาศร้อนขึ้นอีกปีหนึ่ง
