เวียดนามจัดการประชุมความรู้เรื่องโรคออติสซึ่มเป็นครั้งแรกเมื่อเร็วๆนี้ หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องหวังว่าการประชุมจะกระตุ้นให้รัฐบาลเวียดนามปรับปรุงนโยบายด้านการศึกษาและการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความบกพร่องด้านพัฒนาการทางสมองต่างๆ
แม้ว่าจะมีจำนวนโรงเรียนเพื่อเด็กพิเศษเพิ่มมากขึ้นในเวียดนาม รัฐบาลเวียดนามยังไม่มีนโยบายระดับชาติในด้านการบำบัดความบกพร่องของพัฒนาการทางสมองประเภทออติสซึ่มในเด็ก หรือ เอเอสดี เช่นเดียวกับอีกหลายชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เอเอสดี เป็นกลุ่มความผิดปกติของพัฒนาการทางสมองที่ซับซ้อนหลายๆอย่างๆ มีคนเป็นโรคนี้กันหลายสิบล้านคนทั่วโลก เป็นความบกพร่องของพัฒนาการทางสมองส่งผลกระทบต่อความสามารถในการเข้าสังคม การสื่อสารและมักมีพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ
มีผู้ที่เป็นโรคออติสซึ่มจำนวนมากในเวียดนามที่ไม่ได้รับการรักษา แต่ด็อกเตอร์เหงียน เท หวาง เอง รองผู้อำนวยการสถาบัน Vietnam National Institute of Educational Sciences กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าหลายปีที่ผ่านมา แพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคในกลุ่มออติสซึ่มเพิ่มขึ้น
ด็อกเตอร์เองกล่าวว่ายอมรับว่าในอดีต ผู้ที่เป็นโรคออติสซึ่มจะต้องอยู่ในโรงพยาบาลและถูกมองว่าเป็นคนบ้าหรือคนจิตฟั่นเฟือน หากเปรียบเทียบกับปัจจุบัน คนทั่วไปมีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคออติสซึ่มมากขึ้นและมองว่าออติสซึ่มไม่ใช่โรคจิตร้ายแรง
การเปลี่ยนแปลงนี้ส่วนหนึ่งมาจากการปรับปรุงระบบการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะสำหรับเด็ก และการเผยแพร่ผลการวิจัยเกี่ยวกับโรคออติสซึ่มจากต่างประเทศ แต่แรงผลักดันทั้งหมดเกิดจากบรรดาพ่อแม่ของเ้ด็กที่เป็นโรคออติสซึ่มที่รวมตัวกัน
ในการประชุมเกี่ยวกับโรคกลุ่มออติสซึ่มที่ขึ้นในเวียดนามเป็นครั้งแรกเมื่อเร็วๆนี้ ทีมนักวิทยาศาสตร์อเมริกันพร้อมด้วยบรรดาเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการศึกษาและกระทรวงแรงงานแห่งเวียดนามเข้าร่วมในการประชุมด้วยซึ่งหลายคนหวังว่าจะนำไปสู่การสร้างนโยบายแห่งชาติเพื่อการบำบัดและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโรคนี้
ด็อกเตอร์เองกล่าวว่าการประชุมนี้จัดขึ้นริเริ่มโดยกลุ่มผู้ปกครองที่บุตรเป็นโรคออติสซึ่มโดยพวกเขาได้รวมตัวกันเป็นสโมสรเรียกว่า the Hanoi Club for Parents of Children with Autism ทางสโมสรมักจัดงานประชุมกับผู้เชี่ยวชาญทั้งจากท้องถิ่นและจากต่างประเทศ และยังสร้างเครือข่ายสนับสนุนผู้ปกครองที่บุตรมีปัญหาความบกพร่องทางพัฒนาการทางสมอง
ด็อกเตอร์เองกล่าวว่าตอนตั้งสโมสรเมื่อ 11 ปีที่แล้ว มีสมาชิกสโมสรแค่ 40 ครอบครัว แต่ปัจจุบันเพิ่มจำนวนเป็นมากกว่า 500 ครอบครัว
คุณโทนี่ ลูว์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคออติสซึ่มและผู้อำนวยการแห่งศูนย์ Learning Strategies ในโฮจิมินซิตี้ ที่ให้บริการด้านการบำบัดเด็กและผู้ใหญ่ที่มีพัฒนาการล่าช้า เขากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าเขาทำงานด้านนี้ในเวียดนามนานหกปีแล้วและพบว่าพ่อแม่ชาวเวียดนามตื่นตัวในการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคออติสซึ่มกันมากขึ้นโดยผ่านทางอินเตอร์เน็ต
เขากล่าวว่าการอธิบายเกี่ยวกับโรคออติสซึ่มและผลพวงจากความบกพร่องด้านพัฒนาการทางสมองทำได้ง่ายขึ้นเนื่องจากพ่อแม่ชาวเวียดนามมีความรู้เกี่ยวกับลักษณะอาการของโรคมากขึ้นกว่าเดิม
บรรดาสื่อมวลชนในเวียดนามรายงานว่าพบผู้มีอาการพัฒนาการทางสมองบกพร่องเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีใครตอบได้ชัดเจนว่าจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเพราะว่าการวินิจฉัยโรคพัฒนาดีขึ้นหรือว่าคนเป็นโรคนี้เพิ่มมากขึ้นกันแน่
แม้ว่าจะมีจำนวนโรงเรียนเพื่อเด็กพิเศษเพิ่มมากขึ้นในเวียดนาม รัฐบาลเวียดนามยังไม่มีนโยบายระดับชาติในด้านการบำบัดความบกพร่องของพัฒนาการทางสมองประเภทออติสซึ่มในเด็ก หรือ เอเอสดี เช่นเดียวกับอีกหลายชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เอเอสดี เป็นกลุ่มความผิดปกติของพัฒนาการทางสมองที่ซับซ้อนหลายๆอย่างๆ มีคนเป็นโรคนี้กันหลายสิบล้านคนทั่วโลก เป็นความบกพร่องของพัฒนาการทางสมองส่งผลกระทบต่อความสามารถในการเข้าสังคม การสื่อสารและมักมีพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ
มีผู้ที่เป็นโรคออติสซึ่มจำนวนมากในเวียดนามที่ไม่ได้รับการรักษา แต่ด็อกเตอร์เหงียน เท หวาง เอง รองผู้อำนวยการสถาบัน Vietnam National Institute of Educational Sciences กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าหลายปีที่ผ่านมา แพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคในกลุ่มออติสซึ่มเพิ่มขึ้น
ด็อกเตอร์เองกล่าวว่ายอมรับว่าในอดีต ผู้ที่เป็นโรคออติสซึ่มจะต้องอยู่ในโรงพยาบาลและถูกมองว่าเป็นคนบ้าหรือคนจิตฟั่นเฟือน หากเปรียบเทียบกับปัจจุบัน คนทั่วไปมีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคออติสซึ่มมากขึ้นและมองว่าออติสซึ่มไม่ใช่โรคจิตร้ายแรง
การเปลี่ยนแปลงนี้ส่วนหนึ่งมาจากการปรับปรุงระบบการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะสำหรับเด็ก และการเผยแพร่ผลการวิจัยเกี่ยวกับโรคออติสซึ่มจากต่างประเทศ แต่แรงผลักดันทั้งหมดเกิดจากบรรดาพ่อแม่ของเ้ด็กที่เป็นโรคออติสซึ่มที่รวมตัวกัน
ในการประชุมเกี่ยวกับโรคกลุ่มออติสซึ่มที่ขึ้นในเวียดนามเป็นครั้งแรกเมื่อเร็วๆนี้ ทีมนักวิทยาศาสตร์อเมริกันพร้อมด้วยบรรดาเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการศึกษาและกระทรวงแรงงานแห่งเวียดนามเข้าร่วมในการประชุมด้วยซึ่งหลายคนหวังว่าจะนำไปสู่การสร้างนโยบายแห่งชาติเพื่อการบำบัดและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโรคนี้
ด็อกเตอร์เองกล่าวว่าการประชุมนี้จัดขึ้นริเริ่มโดยกลุ่มผู้ปกครองที่บุตรเป็นโรคออติสซึ่มโดยพวกเขาได้รวมตัวกันเป็นสโมสรเรียกว่า the Hanoi Club for Parents of Children with Autism ทางสโมสรมักจัดงานประชุมกับผู้เชี่ยวชาญทั้งจากท้องถิ่นและจากต่างประเทศ และยังสร้างเครือข่ายสนับสนุนผู้ปกครองที่บุตรมีปัญหาความบกพร่องทางพัฒนาการทางสมอง
ด็อกเตอร์เองกล่าวว่าตอนตั้งสโมสรเมื่อ 11 ปีที่แล้ว มีสมาชิกสโมสรแค่ 40 ครอบครัว แต่ปัจจุบันเพิ่มจำนวนเป็นมากกว่า 500 ครอบครัว
คุณโทนี่ ลูว์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคออติสซึ่มและผู้อำนวยการแห่งศูนย์ Learning Strategies ในโฮจิมินซิตี้ ที่ให้บริการด้านการบำบัดเด็กและผู้ใหญ่ที่มีพัฒนาการล่าช้า เขากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าเขาทำงานด้านนี้ในเวียดนามนานหกปีแล้วและพบว่าพ่อแม่ชาวเวียดนามตื่นตัวในการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคออติสซึ่มกันมากขึ้นโดยผ่านทางอินเตอร์เน็ต
เขากล่าวว่าการอธิบายเกี่ยวกับโรคออติสซึ่มและผลพวงจากความบกพร่องด้านพัฒนาการทางสมองทำได้ง่ายขึ้นเนื่องจากพ่อแม่ชาวเวียดนามมีความรู้เกี่ยวกับลักษณะอาการของโรคมากขึ้นกว่าเดิม
บรรดาสื่อมวลชนในเวียดนามรายงานว่าพบผู้มีอาการพัฒนาการทางสมองบกพร่องเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีใครตอบได้ชัดเจนว่าจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเพราะว่าการวินิจฉัยโรคพัฒนาดีขึ้นหรือว่าคนเป็นโรคนี้เพิ่มมากขึ้นกันแน่