ลิ้งค์เชื่อมต่อ

'โดนัลด์ ทรัมป์' พบเจรจา 'มูน แจ-อิน' โดยมีการค้าและเกาหลีเหนือเป็นประเด็นหลัก


U.S. President Donald Trump and first lady Melania Trump welcome South Korean President Moon Jae-in and his wife Kim Jeong-sook to the White House in Washington, U.S., June 29, 2017.
U.S. President Donald Trump and first lady Melania Trump welcome South Korean President Moon Jae-in and his wife Kim Jeong-sook to the White House in Washington, U.S., June 29, 2017.
please wait

No media source currently available

0:00 0:05:08 0:00

ปธน. เกาหลีใต้ มูน แจ-อิน กล่าวปกป้องข้อตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐฯ หรือ KORUS ซึ่ง ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ เคยบอกไว้ว่าเป็นข้อตกลงที่ทำลายการจ้างงานในสหรัฐฯ

ปธน. มูน กล่าวต่อที่ประชุมหอการค้าอเมริกันระหว่างการเยือนกรุงวอชิงตันว่า ข้อตกลงการค้าเสรีอายุ 5 ปี ระหว่างเกาหลีใต้ – สหรัฐฯ สร้างประโยชน์ให้กับทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมรถยนต์ เนื่องจากปัจจุบัน ครึ่งหนึ่งของรถยนต์ของบริษัท Hyundai และ Kia ผลิตในอเมริกา

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา การลงทุนโดยตรงจากเกาหลีใต้ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกือบสามเท่า อยู่ที่ระดับกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ โดยเมื่อปีที่แล้ว บริษัทเกาหลีใต้ในสหรัฐฯ ได้จ้างพนักงานราว 45,000 คน และมีปริมาณการผลิตคิดเป็นตัวเลขรวม 138,000 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ปธน. ทรัมป์ ขู่ว่าจะยกเลิกข้อตกลง KORUS เพราะทำให้อเมริกาขาดดุลการค้าต่อเกาหลีใต้ราว 27,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมรถยนต์

โดยเรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญในการเจรจาระหว่างผู้นำสองประเทศในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้

South Korean President Moon Jae-in speaks at a dinner hosted by the U.S. Chamber of Commerce and the South Korean Chamber of Commerce in Washington, June 28, 2017.
South Korean President Moon Jae-in speaks at a dinner hosted by the U.S. Chamber of Commerce and the South Korean Chamber of Commerce in Washington, June 28, 2017.

ประเด็นสำคัญอีกเรื่องหนึ่งในการหารือระหว่าง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดี มูน แจ-อิน ในครั้งนี้ คือเรื่องเกาหลีเหนือ

เพราะถึงแม้ทั้งสองประเทศจะเห็นว่าจำเป็นจะต้องยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือก็ตาม แต่ก็ยังมีวิธีการเพื่อบรรลุเป้าหมายที่แตกต่างกัน

กล่าวคือขณะที่สหรัฐฯ มุ่งเน้นมาตรการระยะสั้นเพื่อป้องกันเกาหลีเหนือไม่ให้พัฒนาจรวดขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ข้ามทวีป และอาจตัดสินใจใช้กำลังทหารเข้าโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

แต่ผู้นำเกาหลีใต้กลับมองว่า ควรสร้างความสมดุลในเรื่องมาตรการยับยั้งหน่วงเหนี่ยวทางทหารและมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจ กับการเจรจาหารือและการเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับรัฐบาลกรุงเปียงยาง เพื่อลดความตึงเครียดในระยะยาว

โดยประธานาธิบดี มูน แจ อิน ของเกาหลีใต้ มองว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือนั้น ต้องการที่จะเจรจา และวิธีเดียวที่จะทราบคำตอบได้คือการเริ่มพูดคุยกับเกาหลีเหนือ ทั้งยังแสดงความกังวลว่าเกาหลีเหนืออาจตอบโต้หากถูกสหรัฐฯ โจมตี และเรื่องนี้ก็จะทำให้ชาวเกาหลีใต้นับล้านคนต้องตกอยู่ในอันตราย

XS
SM
MD
LG