ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สถานทูตสหรัฐฯ เตือน มอสโกเสี่ยงเป็นเป้าโจมตีโดยกลุ่มสุดโต่ง


จัตุรัสแดงและสัญญาณไฟจราจร เมื่อ 30 มกราคม 2024 (ที่มา: AP)
จัตุรัสแดงและสัญญาณไฟจราจร เมื่อ 30 มกราคม 2024 (ที่มา: AP)

สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงมอสโก ออกมาเตือนว่ามีกลุ่มหัวรุนแรงวางแผนก่อการโจมตีในกรุงมอสโก ไม่กี่ชั่วโมงหลังฝ่ายความมั่นคงรัสเซียประกาศว่าได้ทำลายแผนการของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามที่จะยิงกราดในโบสถ์ยิว

สถานทูตสหรัฐฯ ซึ่งประกาศย้ำให้พลเมืองอเมริกันเดินทางออกจากรัสเซียทันที ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นใดเกี่ยวกับภัยอันตรายที่แจ้งเตือน แต่ก็เตือนให้พลเมืองสหรัฐฯ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ชุมนุมชนหรืองานคอนเสิร์ต และให้ตื่นตัวกับสิ่งรอบข้างในช่วงระยะเวลา 48 ชั่วโมง

การประกาศของสหรัฐฯ เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากหน่วยงานความมั่นคง Federal Security Service – FSB ประกาศว่าได้ทำลายแผนการของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม ที่จะเข้าโจมตีโบสถ์ยิวในกรุงมอสโก ทั้งนี้ รอยเตอร์รายงานว่ายังไม่มีความชัดเจนว่าถ้อยแถลงของทั้งสองฝ่ายมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่

FSB ระบุว่ามีกลุ่มปฏิบัติการย่อยดังกล่าวมีฐานปฏิบัติการอยู่ในภูมิภาคคาลูกาของรัสเซีย โดยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มติดอาวุธสัญชาติอัฟกานิสถานที่ชื่อ ‘ไอซิส-โคราซาน (ISIS-Khorasan)’ ที่มีเป้าหมายจะสร้างรัฐอิสลามในพื้นที่อัฟกานิสถาน เติร์กเมนิสถาน ทาจิกิสถาน อุซเบกิสถานและอิหร่าน

พันธมิตรของสหรัฐฯ อย่างอังกฤษ แคนาดา เกาหลีใต และลัตเวีย ต่างประกาศเตือนพลเมืองของตนในลักษณะเดียวกัน และประกาศเตือนไม่ให้ประชาชนเดินทางไปยังรัสเซียด้วย โดยระดับความอันตรายของการเดินทางเข้ารัสเซียที่ทางการสหรัฐฯ ตั้งเอาไว้ตอนนี้ อยู่ในระดับสูงสุดเทียบเท่ากับการเดินทางไปยังอัฟกานิสถาน ซีเรีย เยเมน ซูดานใต้และอิหร่าน

สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ความสัมพันธ์ของรัสเซียกับชาติตะวันตกอยู่ในระดับร้าวลึกที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการณ์คิวบาเมื่อปี 1962 หลังรัฐบาลเครมลินกล่าวหาว่าสหรัฐฯ กำลังต่อสู้กับรัสเซียด้วยการสนับสนุนยูเครน

ปัจจุบัน งานนักการทูตประจำกรุงมอสโก ถือเป็นหนึ่งในตำแหน่งงานที่มีความยากที่สุดสำหรับประเทศตะวันตก สำหรับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จัดอันดับเมืองหลวงของรัสเซียว่ามีความยากเทียบเท่ากับเมืองหลวงของโซมาเลีย ซีเรีย เซียร์รา ลีโอน และอัฟกานิสถาน ในแง่ของงานการทูต และแทบจะไม่มีสื่อมวลชนสหรัฐฯ หลงเหลืออยู่ที่นั่นอีกแล้ว

รอยเตอร์รายงานว่า สาเหตุของความยากเย็นในการทำงานที่กรุงมอสโกมาจากการสอดส่องและคุกคามอย่างหนัก รวมถึงการต้องทำตามแนวปฏิบัติที่เรียกว่า “กฎมอสโก (Moscow Rules)” ซึ่งเป็นแนวทางป้องกันความหละหลวมที่สายลับชาติตะวันตกคิดค้นขึ้น

ในทางกลับกัน รัสเซียเองก็กล่าวว่านักการทูตของตนที่ประจำอยู่ในเมืองหลวงของชาติตะวันตก ตกเป็นเหยื่อการถูกคุกคามและเลือกปฏิบัติเช่นกัน โดยรัสเซียเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นกระแสความเกลียดชังรัสเซียที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบเกือบศตวรรษ

  • ที่มา: รอยเตอร์

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG