ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 30 ล้านล้านบาทในปีงบประมาณหน้า ทั้งๆที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เคยให้คำมั่นก่อนการเลือกตั้งเมื่อปี ค.ศ. 2016 ว่าจะแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณและล้างหนี้สาธารณะประเทศ
นายฟิลิป สวาเกล ผู้อำนวยการสำนักงานงบประมาณของรัฐสภาสหรัฐฯ หรือ CBO เปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ อยู่ในระดับที่สูงกว่ามาตรฐานในอดีต โดยในปีงบประมาณปัจจุบันนี้คาดว่าการขาดดุลจะอยู่ที่ 960,000 ล้านดอลลาร์ และในปีงบประมาณหน้าที่จะเริ่มต้นในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ไปได้ อีกทั้งยังคาดว่า ระดับหนี้ภาครัฐโดยรวมจะเพิ่มสูงขึ้นในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า เนื่องจากประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขที่เพิ่มขึ้น
CBO ยังประเมินว่า ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังขยายตัวได้อย่างช้าๆ จาก 2.3% ในปีนี้ และเหลือ 1.8% ในช่วง 4 ปีข้างหน้า จากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและการใช้จ่ายภาครัฐ รวมทั้งผลกระทบจากนโยบายการค้าที่มีผลต่อการลงทุนในอนาคต
นี่จะถือเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ที่ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยครั้งล่าสุดนั้นเกิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 2012 ที่เศรษฐกิจอเมริกันเพิ่งฟื้นตัวจากวิกฤตการเงิน โดยการขาดดุลงบประมาณและระดับหนี้ภาครัฐที่เพิ่มขึ้นสูงในช่วงนี้ มาจากการผลักดันนโยบายลดภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์และพรรครีพับลิกัน เมื่อปี ค.ศ. 2017 มูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
