ทางการยูเครน เผยแผนการจัดฉากสังหารนักข่าวรัสเซีย เพื่อให้รอดพ้นจากการตามล่าของทางการรัสเซีย ในขณะที่องค์กรสื่อโลก ออกมาโจมตีแผนการลวงโลกนี้ว่าเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของสื่อมวลชน
ข่าวการสังหารนายบับเชงโก ถูกเผยแพร่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่านายอาร์คาดี บับเชงโก ผู้สื่อข่าวด้านสงครามของรัสเซียผู้ต่อต้านรัฐบาลเครมลิน ถูกยิงเสียชีวิตที่อพาร์ตเมนต์ของเขาในกรุงเคียฟ ของยูเครน โดยมีภรรยาเป็นผู้พบศพ ก่อนที่เขาจะปรากฏตัวในวันพุธพร้อมกับทางการยูเครนว่าทั้งหมดเป็นการจัดฉาก
นายอาร์คาดี บับเชงโก ผู้สื่อข่าวชาวรัสเซีย แถลงการณ์ร่วมกับหน่วยงานด้านการรักษาความปลอดภัยของยูเครน หรือ SBU ที่กรุงเคียฟ ว่า เขาถูกราดด้วยเลือดหมูและถูกส่งไปยังห้องเก็บศพเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ด้วยความช่วยเหลือของทางการยูเครน และต้องขอโทษทุกฝ่าย โดนเฉพาะภรรยาของเขาที่เหมือนตกนรกทั้งเป็นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
ด้านหน่วย SBU ของยูเครน เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งว่าหน่วยสืบราชการลับของรัสเซียวางแผนที่จะสังหารนายบับเชงโกเมื่อเดือนที่แล้ว และพบว่ารัสเซียสั่งซื้ออาวุธและว่าจ้างอดีตนักรบกลุ่มแบ่งแยกดินแดนชาวยูเครนให้เป็นผู้ลงมือ พร้อมตั้งค่าหัวถึง 40,000 ดอลลาร์ในการปลิดชีพนายบับเชงโก ซึ่งหลังจากการจัดฉากสังหาร ทางการยูเครนจึงได้ว่าจ้างนายบับเชงโกให้แฝงตัวเข้าไปในปฏิบัติการที่จับกุมเจ้าหน้าที่รัสเซียที่ก่อเหตุสังหารผู้คนในต่างแดน
นายดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี ว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่นายบับเชงโกยังมีชีวิตอยู่ แต่การจัดฉากสังหารตัวเองนั้นดูจะเป็นเรื่องแปลก และไม่ได้ทำให้รัสเซียเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อยูเครนว่าเป็นประเทศอันตรายสำหรับผู้สื่อข่าวอยู่ดี ขณะที่โฆษกรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย บอกว่า ยูเครนกำลังสร้างโฆษณาชวนเชื่อเพื่อความเกลียดชังรัสเซีย
ด้านองค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน หรือ Reporters Without Borders ออกมาประณามแผนลวงโลกนี้ว่า การล้อเล่นกับความจริงของทางการยูเครนเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดและน่าสลดใจ และมองว่ายูเครนน่าจะหาวิธีอื่นในการเปิดโปงแผนการของรัสเซีย แทนที่จะเป็นการจัดฉากสังหารนักข่าวเช่นนี้
ทั้งนี้ ข่าวลวงเรื่องการเสียชีวิตของนักข่าวรัสเซียวัย 41 ปีรายนี้ ได้จุดประเด็นขัดแย้งระหว่างรัฐบาลมอสโกและรัฐบาลกรุงเคียฟ ที่บาดหมางกันมาตั้งแต่การควบรวมแหลมไครเมียเป็นของรัสเซีย และการที่รัฐบาลยูเครนอ้างว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังกลุ่มนักรบแบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกของยูเครนด้วย
This story originated in VOA's Ukrainian Service; some reporting by AP and RFE/RL.