กงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก ยืนยันว่าผู้อพยพที่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ ควบคุมตัวที่ชิคาโก เมื่อวันอาทิตย์ และได้รับการบันทึกภาพและวิดีโอโดยพิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดังของอเมริกา ไม่ใช่คนไทยอย่างที่กล่าวอ้าง
เมื่อวันอาทิตย์ ฟิล แม็กกรอว์ หรือ ดร. ฟิล พิธีกรรายการทอล์คโชว์สไตล์ปรึกษาปัญหาสุขภาพและชีวิตในสหรัฐฯ เดินทางไปกับโธมัส โฮแมน ผู้คุมชายแดนคนใหม่ ในยุคประธานาธิบดีทรัมป์ เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐฯ หรือ ICE และเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางด้านการตรวจคนเข้าเมืองรายอื่น ๆ เข้าร่วมปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ตามรายงานของสื่อเอบีซีและรอยเตอร์
ดร.ฟิล โพสต์วิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์ X พร้อมข้อความระบุใต้คลิปอ้างว่า ผู้ถูกจับกุมชุดแรกในชิคาโกกับโฮแมน และชายรายนี้กระทำผิดทางเพศ และเป็นผู้หลอกลวงเหยื่ออินเตอร์เน็ตจากประเทศไทย และในคลิปดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่แซม เซดา ชายที่ระบุว่าตนเองเป็นคนที่เกิดในประเทศไทย ยอมตอบข้อซักถามของดร.ฟิล
ในคลิปความยาวไม่ถึง 2 นาทีนี้ แซม เซดา ทักพิธีกรดังรายนี้ว่าใช่ดร.ฟิลหรือไม่ เพราะตนเคยเห็นในโทรทัศน์ และตนไม่ได้มีสัญชาติอเมริกัน แต่มีแม่เป็นพลเมืองสหรัฐฯ เมื่อดร.ฟิล ถามชายคนนี้ว่าเคยถูกขับออกจากสหรัฐฯ หรือไม่ เขาเลี่ยงที่จะตอบคำถามไปว่าเคยอยู่ในระบบมาก่อน และขอคุยกับทนายทันที ก่อนที่โฮแมน จะสั่งให้คุมขังชายรายนี้
นางฆฏนาวดี กัลยาณมิตร กงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอไทยถึงประเด็นนี้ว่า เมื่อทราบเรื่องจากการรายงานข่าว ก็ได้สืบค้นในระบบทะเบียนราษฎร์ และไม่พบชื่อ จึงหมายความว่า เซดาไม่ใช่บุคคลสัญชาติไทย แต่ตามข้อมูลที่เจ้าตัวสัมภาษณ์ว่าเกิดที่ไทย ก็อาจเป็นไปได้ว่าชายคนนี้เกิดในค่ายผู้ลี้ภัย และเดินทางมาสหรัฐฯ ตามแม่ที่เป็นพลเมืองอเมริกัน
กงสุลใหญ่ นครชิคาโกกล่าวว่า นอกจากกรณีนี้ สถานกงสุล นครชิคาโกยังไม่ได้รับแจ้งเหตุคนไทยถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจับกุมแต่อย่างใด
นางอุราสี ถิรตั้งเสถียร เจิง กงสุล ณ นครชิคาโก กล่าวว่า กระบวนการส่งตัวกลับโดยทั่วไป จะอ้างอิงกับประเทศต้นทางที่ตนเองถือสัญชาติอยู่ ซึ่งจุดนี้จะเป็นขั้นตอนที่หน่วยงานรัฐจะต้องตรวจสอบและยืนยันสัญชาติต่อไป
ทางสถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก ระบุถึงกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศสถานการณ์เกี่ยวกับบริเวณชายแดนใต้ เพื่อหยุดยั้งการเข้าเมืองผิดกฎหมาย และการส่งตัวคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองและก่ออาชญากรรมในสหรัฐฯ กลับประเทศต้นทาง โดยขอให้ชุมชนไทยในพื้นที่อย่าตื่นตระหนก และให้ติดตามข่าวสารจากสื่อท้องถิ่นที่เชื่อถือได้
ปฏิบัติการบุกจับในนครชิคาโก ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่มีนโยบายคุ้มครองผู้อพยพ หรือ sanctuary city ในอเมริกา เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์แรกหลังการขึ้นรับตำแหน่งของประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้ให้คำมั่นจะขับผู้อพยพที่อยู่ในสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายออกจากประเทศขนานใหญ่ และเดินหน้าลงนามใช้อำนาจฝ่ายบริหารเพื่อเดินหน้าปราบปรามการเข้าเมืองผิดกฎหมาย และลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ไม่ให้ความร่วมมือ ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 20 มกราคมที่ผ่านมา
แหล่งข่าวในสำนักงานตำรวจนครชิคาโก เผยกับวีโอเอไทยด้วยว่า การบุกจับกุมผู้อพยพเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเหล่านี้ ดำเนินการโดยใช้เจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษของตม. โดยเฉพาะ และไม่มีการขอกำลังเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น แต่อย่างใด อีกทั้งยังมีรายงานว่าหน่วยปฏิบัติการดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ
ทั้งนี้ ดร.ฟิล ซึ่งเคยขึ้นกล่าวในเวทีหาเสียงของทรัมป์ เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ระบุผ่านโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ X เมื่อวันอาทิตย์ด้วยว่า ICE มีเป้าหมายจับกุม 270 คนในปฏิบัติการที่พุ่งเป้าไปยังบุคคลจำเพาะเจาะจง และยืนยันว่าไม่ได้เป็นการกวาดล้างชุมชนเหมือนที่หลายฝ่ายเข้าใจ
นอกเหนือจากดร.ฟิลแล้ว ยังมีรักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม เอมิล โบฟ เข้าร่วมภารกิจเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วย และออกแถลงการณ์ว่าได้อยู่ในภารกิจจับกุมผู้อพยพผิดกฎหมายรายแรกในนครชิคาโก ซึ่งเป็นผู้อาศัยในอเมริกาอย่างไม่ถูกต้อง และได้ “สังหารหญิงวัย 19 ปีระหว่างการขับขี่ภายใต้ฤทธิ์สุราหรือสารเสพติด”
ทั้งนี้ หน่วยงาน ICE ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม ในปฏิบัติการที่พุ่งเป้าไปยังบุคคลจำเพาะเจาะจง ที่นครชิคาโกเมื่อวันอาทิตย์ เพื่อมีวัตถุประสงค์ในการรักษาความปลอดภัยของประชาชน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ด้าน 2 วุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครตจากรัฐอิลลินอยส์ ดิ๊ก เดอร์บิน และแทมมี ดักเวิร์ธ ในฐานะสมาชิกอาวุโสในคณะกรรมาธิการด้านตุลาการ แห่งวุฒิสภาสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ร่วมระบุว่า ความพยายามขับผู้อพยพออกจากประเทศขนานใหญ่ของทรัมป์ จะครอบคลุมมากกว่าการส่งตัวอาชญากรกลับประเทศ ลามไปจนถึงปฏิบัติการกวาดล้างเหล่าทหารผ่านศึก บุคลากรจำเป็น และผู้อพยพที่ไม่มีประวัติอาชญากรรม พร้อมระบุด้วยว่า “เราควรมุ่งเน้นการเนรเทศผู้อพยพที่เป็นภัยต่อประเทศของเรา .. และเราควรให้คนอื่น ๆ มีโอกาสได้รับสิทธิ์เข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย”
ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐฯ บังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองจับกุม 956 รายในวันเดียว ซึ่งมากกว่าการจับกุมเฉลี่ยต่อวันในปีงบประมาณ 2024 ถึง 3 เท่าตัว
- มีเนื้อหาบางส่วนจากรอยเตอร์, เอบีซี นิวส์ และเฟซบุ๊กสถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก
กระดานความเห็น