“ที่ร้านพี่จะมี คนเร่ร่อน (โฮมเลส) เข้ามาที่ร้านทุกวีคเลย…เข้ามาแล้วโวยวายต้องการโน่น ต้องการนี่จากพี่ มาแบบมาทำความลำบากให้กับลูกค้าเรา พนักงานเรา” สุนีย์ ชัง เจ้าของกิจการชาวไทย รัฐแคลิฟอร์เนีย
“เรื่องของ คนเร่ร่อน (Homeless) ที่พูดถึง มันเป็นเรื่องที่จะต้องแก้กัน เพราะว่า ยิ่งนับวันก็ยิ่งมากขึ้น แล้วก็ส่วนใหญ่โฮมเลสส่วนใหญ่มากกว่า 50% คือพวกติดยาเสพติด ไม่ใช่คนไม่มีสตางค์จริงๆ” พยอม จึงตระกูล ชาวไทย นครลอส แอนเจลิส
“ก็เป็นเรื่องของ Undocumented Thai people (คนไทยที่อาศัยในอเมริกาโดยไม่มีเอกสาร) ที่ไม่มีข้อมูล กลัวที่จะไปหาหมอ ไม่มีสตางค์ด้วย คือคนไทยส่วนใหญ่ต้องยอมรับว่า บางคนอยู่อย่างถูกต้องในยูเอสเอ บางคนอยู่ไม่ถูกต้อง บางคนโลกมืด ซึ่งเค้าเจ็บป่วยขึ้นมา เค้าไม่รู้จะไปพึ่งพาใคร ไม่รู้จะหันไปทางไหน” สาโรจน์ แตงแก้ว ชาวไทย ในนครลอส แอนเจลิส
“ผมคิดว่าปัญหาที่สำคัญที่สุดสำหรับผมคือปัญหาเรื่องที่พักอาศัย การใช้ชีวิตอยู่ในเมืองลอส แอนเจลิส มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ทั้งคนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย หรือคนไทยในชุมชนไทย มีความยากลำบากในการจ่ายค่าเช่าอพาร์ทเมนต์” เจอร์รี ราเบิร์น ชาวเชื้อสายไทยในลอส แอนเจลิส
ส่วนหนึ่งของเสียงสะท้อนในหลากปัญหา หลายมุมมอง จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวชุมชนไทยในนครลอส แอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มีโอกาสส่งเสียงไปยังผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครลอส แอนเจลิส มากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ผ่านกิจกรรมการพบปะ ‘meet and greet’ ผู้สมัครหลายคนที่เดินสายลงพื้นที่เพื่อพบปะ รับฟังปัญหา และขอคะแนนเสียงจากชาวชุมชนไทย อย่างใกล้ชิดถือเป็นก้าวสำคัญในกระบวนการมีส่วนร่วมทางประชาธิปไตยที่ผู้คนในชุมชนไทยจะได้แลกเปลี่ยน เสนอจุดยืนและส่งเสียงให้เป็นที่ได้ยินบนเวทีการเมืองท้องถิ่นที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในปีนี้
โรสลิน สิรินดา เพ็ชรสุวรรณ์ อายุ 18 ปี ชาวไทยในนครลอสแอนเจลิส ที่เป็นหนึ่งในผุ้ที่ขึ้นกล่าวนำเสนอปัญหากับนักการเมืองที่ลงพื้นที่พบปะชุมชนไทย ในประเด็นด้านตรวจคนเข้าเมืองของคนไทย
“ หวังว่าเขาจะเริ่มสนใจกับการพวก Immigration Policy (นโยบายตรวจคนเข้าเมือง) หรือการที่เราช่วย พัฒนาชุมชนไทย หรือ พวก ชุมชนเล็ก ๆ ที่ลำบาก ตั้งแต่ช่วงโควิด และก็รู้สึกว่าหลายคนที่ในครอบครัว หรือที่รู้จักหลายคนในแอลเอ ยังลำบากหลังจาก 10 -20 ปี ยังไม่ได้สัญชาติอเมริกัน”
เช่นเดียวกับ ด.ช. ออสซี่ นิติโรจน์ อายุ 8 ขวบ มองว่า ปัญหาเรื่องคนไร้บ้านเป็นสิ่งเร่งด่วนที่ผู้บริหารต้องเร่งแก้ไข
ออสซี่ บอกว่า ได้มีโอกาสถามผู้สมัครเกี่ยวกับเรื่องคนไร้บ้าน ที่เขาได้เห็นคนไม่มีบ้าน ต้องนอนตามถนนในดาวน์ทาวน์ ลอส แอนเจลิส ซึ่งเขาคิดว่าปัญหาคนไร้บ้านในลอส แอนเจลิส ควรจะหมดไป และควรจะมีการให้ที่พักพิง มีอาหาร มีน้ำ สาธารณูปโภคให้เขาได้อาศัย
นครลอส แอนเจลิส กำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่จะเข้ามาบริหารนครใหญ่ในช่วงปลายปีนี้ โดยจะมีการเลือกตั้งขั้นต้นในต้นเดือนมิถุนายน เพื่อคัดเลือกผู้สมัครคะแนนสูงสุด 2 คนสุดท้ายในการชิงชัยการเลือกตั้งใหญ่ในเดือนพฤศจิกายน
รอสลิน ปัทมคันธิน ประธานสภาหอการค้าไทย-อเมริกันแห่งแคลิฟอร์เนีย หนึ่งในแกนนำในชุมชนไทย บอกว่า การได้นำเสนอปัญหาต่อนักการเมืองในพื้นที่เป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยสะท้อนและส่งเสียงของชาวชุมชนไทย
“วันนี้ดีใจมากเลยนะคะ ว่ามีนักการเมืองเข้ามาหาชุมชนไทยวันนี้ เป็นความที่บอกว่าเราเห็นคุณ เราสนใจที่รู้ว่า ฟังว่าคุณมีปัญหาอะไรบ้าง และให้เป็นการเชิญชวน invitationเหมือนเปิดโอกาสให้ ถ้าคุณสนใจ มาแก้ปัญหากันค่ะ เลยเป็นสิ่งดีเพราะว่าในอดีต อาจจะไม่รู้ว่า จะเข้าไปหานักการเมืองอย่างไร สำคัญสำหรับคนไทยด้วยที่จะตัดสินใจ"
ชัญชนิฐ มาร์เทอเรลล์ ผอ.ศูนย์ส่งเสริมชาวไทย นครลอส แอนเจลิส บอกว่า เสียงของชาวชุมชนไทยมีความหมายและมีส่วนสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ
"เพราะว่าเราก็เป็นชาวเอเชียทั้งหลายที่สำคัญเหมือนกัน เพราะว่าตอนนี้ในนครลอส แอนเจลิส ชาวเอเชีย ถ้าดูในเซนซัส ทุก10ปี จะเป็นเซนซัส ที่ชาวเอเชียนั้นขึ้นมาๆ ตลอด ไม่เคยตก เราก็เลยมีความหมายมากขึ้นค่ะ"
ที่ผ่านมากลุ่มผู้สมัครต่างเดินสายลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงและนำเสนอนโยบายให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเชื้อชาติต่างๆที่มีอยู่หลากหลาย และแน่นอนว่าชุมชนไทยก็ได้รับความสนใจเช่นกัน
Mike Feuer ผู้สมัครลงชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีลอส แอนเจลิส ที่เดินสายแนะนำตัวกับชุมชนไทยเป็นประจำ บอกว่า ชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส เป็นชุมชนที่มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยพลังการขับเคลื่อนที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของเมืองลอส แอนเจลิส อย่างมาก และแน่นอนว่าต้องเข้ามาร่วมกิจกรรมกับชุมชนไทย
Kevin De Leon ผู้สมัครลงชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีลอส แอนเจลิส อีกคน บอกว่าชุมชนไทย ก็มีลักษณะเหมือนกับชุมชนเกาหลี ชุมชนจีน ชุมชนคนฟิลิปปินส์ ชุมชนคนบังกลาเทศ ชุมชนคนญี่ปุ่น ที่ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของความหลากหลายทางเชื้อชาติ ในเมืองลอส แอนเจลิส และทำให้เขารักชุมชนไทย เพราะทราบดีว่าชุมชนแห่งนี้มีความสำคัญกับลอส แอนเจลิส
ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในชุมชนไทยส่วนหนึ่งบอกว่า ทุกคะแนนเสียงจะมีความหมาย และมีพลังมากขึ้น เมื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเชื้อสายไทยออกไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนของตัวเอง
“ ผมก็เลือกตั้งทุกครั้ง ก็จะไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงทุกครั้ง เพราะว่า นโยบายมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นนโยบายของเคาน์ตี้เล็กๆ จบถึงระดับประเทศ เพราะฉะนั้นถ้าเรา Compliant (ร้องเรียน) เรื่องว่าปัญหาเรื่องของ ค่าประกันสุขภาพ มันแพง ปัญหาของเรื่องคนเร่ร่อน (homeless) เรื่องของการตรวจคนเข้าเมือง เรื่องของธุรกิจต่างๆ มันไม่ดี แต่ถ้าว่าเราไม่ได้ทำอะไรกับมัน อย่างน้อย เลือกตัวแทนของเราที่เราคิดว่าดีที่สุด ไปเป็นตัวแทนของเราในสภา คุณก็ร้องเรียนไปมันไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา คุณควรออกมาออกสิทธิ์และใช้เสียงครับ เลือกตัวแทนของคุณไปต่อสู้ให้คุณ” สาโรจน์ แตงแก้ว ชาวไทย ในนครลอส แอนเจลิส บอกกับ ‘วีโอเอ ไทย’
“คนไทยช่วยได้ โดยที่เสียงโหวตเท่านั้น โหวตนี่แหละจะช่วยได้ดีที่สุด แต่คนไทยส่วนใหญ่ ชาติเราจะห่วงการทำมาหากินมาก เพราะว่าเราไม่ได้มาอย่าง Refugee อย่างที่รัฐบาลให้เงินให้ทอง ให้ไปโรงเรียน พวกเรามาถึงปุ๊บ เราต้องทำงาน เพื่อที่จะหาค่าเช่า ค่ากินค่าอยู่ เพราะฉะนั้นเราต้องส่งเงินกลับเมืองไทย ให้พ่อให้แม่ให้ญาติพี่น้อง เวลาของเค้าจะมีน้อยมาก”พยอม จึงตระกูล ชาวไทยในนครลอส แอนเจลิส กล่าว
การเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น เพื่อชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรี นครลอส แอนเจลิส ถือเป็นก้าวสำคัญอีกครั้งของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งภายในชุมชนไทยในนครลอส แอนเจลิสที่จะสามารถออกไปมีส่วนร่วม เป็นปากเป็นเสียงเรียกร้องนโยบายต่างๆให้กับชุมชนไทยที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
