สมาชิกกองกำลังความมั่นคงของซูดานจับกุมตัวผู้ประท้วงในกรุงคาร์ทูม ในวันพุธ ซึ่งรวมถึง 3 ผู้นำนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ท่ามกลางแรงกดดันจากประชาคมโลกต่อผู้นำกองทัพซูดานที่ก่อรัฐประหารเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า สมาชิกกองกำลังความมั่นคงของซูดานยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วงและจับกุมแกนนำบางคนของพรรคอัมมา ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของซูดาน
ในกลุ่มผู้ถูกจับกุมนั้นรวมถึง อิสมาอิล อัล-ทัจ ผู้นำสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพระดับสูงของซูดาน อัล-ซาดีก อัล-มาห์ดี หัวหน้าพรรคอัมมา และ คาลิด อัล-ซิเลก อดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีซูดาน
ขณะเดียวกัน สหภาพแอฟริกาได้สั่งระงับกิจกรรมทุกอย่างของซูดานที่เกี่ยวข้องกับสหภาพฯ จนกว่าจะมีการคืนอำนาจให้รัฐบาลพลเรือน
ด้านธนาคารโลกมีแถลงการณ์ว่า ได้ระงับความช่วยเหลือทางการเงินแก่ซูดานและหยุดกิจกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับซูดาน พร้อมไปกับการติดตามสถานการณ์การเมืองของซูดานอย่างใกล้ชิด
บรรดาธุรกิจต่าง ๆ ในซูดานต่างปิดบริการชั่วคราวหลังจากมีเสียงเรียกร้องให้มีการนัดประท้วงหยุดงาน ขณะที่หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจ และพนักงานธนาคารกลาง ต่างออกมาร่วมเรียกร้องให้กองทัพคืนอำนาจ
เมื่อวันอังคาร ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพซูดาน พลโทอับเดล-ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ออกมากล่าวปกป้องการยึดอำนาจ โดยบอกว่าเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามกลางเมือง
ขณะเดียวกัน อดีตนายกรัฐมนตรีอับดัลลา แฮมดก และภริยา ซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ตั้งแต่วันจันทร์ ได้รับการปล่อยตัวกลับสู่บ้านของพวกเขาแล้วในวันอังคาร ภายใต้การติดตามสอดส่องอย่างใกล้ชิด อ้างอิงจากแถลงการณ์ของสำนักนายกรัฐมนตรี
พลโทบูร์ฮาน กล่าวด้วยว่า รัฐมนตรีและนักการเมืองบางคนที่ถูกจับตัวไว้จะถูกดำเนินคดีในข้อหาปลุกปั่นให้เกิดการก่อกบฏภายในประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน มีคำแถลงแสดงความยินดีต่อการปล่อยตัวอดีตนายกฯ แฮมดก พร้อมเรียกร้องให้ผู้นำทหารซูดานปล่อยตัวผู้นำรัฐบาลพลเรือนทุกคนเป็นอิสระ
พลโท อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของซูดาน ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ หลังทำการยึดอำนาจจากรัฐบาลเปลี่ยนถ่าย และประกาศยุติบทบาทของสภาร่วมพลเรือน-กองทัพ ซึ่งดูแลบริหารประเทศมาตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. 2019 หรือหลังการขับไล่อดีตผู้นำเผด็จการ ประธานาธิบดี โอมาร์ อัล-บะเชียร์
พลโท อัล-บูร์ฮาน สัญญาว่า กองทัพจะส่งมอบอำนาจคืนให้กับรัฐบาลพลเรือนในเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 2023 ที่จะมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้น
ในช่วงเกิดเหตุยึดอำนาจเมื่อวันจันทร์ มีประชาชนอย่างน้อย 4 คนเสียชีวิต และกว่า 80 คนที่ได้รับบาดเจ็บ หลังกองกำลังความมั่นคงทำการยิงอาวุธใส่กลุ่มผู้ชุมนุมในกรุงคาร์ทูม ตามข้อมูลของกลุ่ม Sudan Doctors Committee
แต่แม้จะมีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น ผู้ประท้วงยังคงออกมาเดินชุมนุมในวันอังคาร เพื่อประณามการก่อรัฐประหาร พร้อมร้องตะโกนว่า “ไม่เอาการปกครองของทหาร”
ขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในซูดาน ได้ออกคำเตือนให้ประชาชนชาวอเมริกันที่อยู่ในประเทศให้ทำการหลบภัยในสถานที่ของตนเอง หรือ Shelter in Place
หลังการก่อรัฐประหารในซูดาน อันโตนิโอ กูเทอเรซ เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ สหภาพแอฟริกา และองค์กรสันนิบาตอาหรับ ออกมาแสดงความตื่นตระหนกและความผิดหวังต่อเหตุการณ์ในประเทศนี้ ขณะที่ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศระงับการส่งความช่วยเหลือทางการเงินมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์ให้ซูดาน
นอกจากนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ อังกฤษ และนอร์เวย์ ร่วมกันออกแถลงการณ์ประณามการก่อรัฐประหารและเรียกร้องให้กองกำลังความมั่นคงให้ปล่อยตัวผู้ที่ “ถูกจับกุมอย่างไม่ถูกกฎหมาย” ทันทีด้วย
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก สำนักข่าวเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์
