ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ชีวประวัติ 'สตีฟ จ็อบส์' ถูกนำไปสร้างเป็นโอเปร่า


Baritone Edward Parks stars as Steve Jobs in the Santa Fe Opera production of The (R)evolution of Steve Jobs.
Baritone Edward Parks stars as Steve Jobs in the Santa Fe Opera production of The (R)evolution of Steve Jobs.

เรื่องราวชีวิตของ สตีฟ จ็อบส์ ผู้ก่อตั้ง Apple ถูกนำไปเขียนเป็นหนังสือหลายเล่มเเละสร้างเป็นภาพยนตร์หลายเรื่อง แต่ขณะนี้ เรื่องราวชีวิตที่เเสนซับซ้อนของเขา กับผลงานที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลัง กำลังถูกถ่ายทอดเป็นการเเสดงบนเวทีประเภทโอเปร่า

เมสัน เบทส์ นักเขียนบทที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเเกรมมี่ กล่าวว่าชีวิตของสตีฟ จ็อบส์ เป็นชีวิตที่ซับซ้อนเเละยุ่งเหยิง

สตีฟ จ็อบส์ มีลูกสาวที่เขาไม่ยอมรับและไม่เหลียวเเลเป็นเวลานานหลายปี เขาเป็นมะเร็งที่ไม่มีทางรักษาหาย และในขณะที่จ็อบส์ เป็นคนที่มีความสามารถในการชักจูงคนที่อยู่รอบข้าง เขาก็เป็นเจ้านายที่ทะเยอทะยานและก้าวร้าว เเม้เขาจะสร้างสรรค์ผลงานทุกชิ้นให้มีความสมบูรณ์แบบและสามารถควบคุมได้ แต่ก็ไม่มีใครควบคุมชีวิตตัวเองได้

ความจริงของชีวิตที่ขัดเเย้งกับผลงานที่เขาประดิษฐ์ขึ้นนี้เองที่กลายเป็นแก่นหลักของเรื่องในละครโอเปร่า "The (R)evolution of Steve Jobs"

เบทส์ นักเขียนบทเรื่องนี้ มีผลงานทั้งด้านซิมโฟนี่และเพลงคลาสสิกมากมาย เขามองว่าชีวประวัติของ จ็อบส์ เป็นเรื่องที่เหมาะที่สุดเเก่การสร้างเป็นการเเสดงโอเปร่า

เเต่ มาร์ค แคมพ์เบล ผู้เเต่งเพลงละครเวทีที่มีผลงานมากที่สุดในอุปรากรอเมริกันร่วมสมัย บอกว่า เขาไม่เเน่ใจนักต่อเรื่องนี้ เขามีเพื่อนหลายคนที่ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมถึงอยากจะเขียนละครอุปรากรเกี่ยวกับชีวิตของสตีฟ จ็อบส์

เพื่อนๆ แสดงความคิดเห็นว่า จ็อบส์ เป็นนักทุนนิยมที่เลวร้ายที่สุด เเต่เขาตอบกลับเพื่อนๆ ไปว่า ให้ลองเอามือล้วงกระเป๋าตัวเองดูสิว่ามีโทรศัพท์มือถือ iPhone หรือเปล่า?

และเเทนที่จะเสนอเรื่องราวชีวิตตามลำดับของเหตุการณ์ในชีวประวัติของ จ็อบส์ ทีมงานได้เลือกใช้การเล่าเรื่องเเบบไม่เรียงตามลำดับปฏิทิน เพื่อเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอกและผลงานคอมพิวเตอร์ที่เขาคิดค้นขึ้น

เขากล่าวว่า สตีฟ จ็อบส์ เป็นคนที่่มีไอเดียมากมายเเละคิดเร็ว ทีมงานจึงอยากสร้างละครเวทีที่ไม่นิ่งและเนื้อหากระโดดไปมา

นี่ทำให้ละครโอเปร่าเรื่อง The (R)evolution of Steve Jobs ดำเนินเรื่องย้อนกลับไปมาตลอดการเเสดง 18 ฉาก และผู้เเต่งเรื่องได้เเต่งดนตรีสำหรับตัวละครเเต่ละตัวที่เเสดงถึงบุคลิกเด่นประจำตัว และเนื่องจากจ็อบส์เล่นกีต้าร์ เเละใช้เวลาส่วนใหญ่ทำงานด้านอิเลคทรอนิคส์ เพลงที่ใช้กับตัวเอกของเรื่องเป็นเสียงกีต้าร์อะคูสติกที่รวดเร็ว ตื่นเต้น และออกเเนวอิเลกทรอนิกา

ส่วนลอรีน ภรรยาของจ็อบส์ มีความสงบสุขุม ช่วยให้จ็อบส์ จดจ่อในงานที่ทำได้ดีขึ้น และเสียงเพลงที่ใช้ประกอบบทของลอรีนจะออกเเนวนุ่มลึกเหมือนเสียงทะเลที่สงบ และบรรเลงด้วยเครื่องดนตรีประเภทสาย

ตัวละครอื่นๆ ในเรื่อง ยังรวมถึงสตีฟ วอซเนียก คู่ลงทุน และ โคบุน ชิโน อ็อตโตกาวา พระนิกายเซนที่เกิดในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคนที่ทำให้จ็อบส์เปลี่ยนไปนับถือศาสนาพุทธ ซึ่งเบทส์กล่าวว่าเขาใช้เสียงดนตรีเเนวอิเลคทรอนิคส์ของเสียงสวดมนต์และเสียงกลองไทย

เควิน นิวเบอรี่ ผู้กำกับกล่าวว่า ฉากของละครเรื่องนี้สะท้อนผลงานสร้างสรรค์ของจ็อบส์ ละครปิดฉากขึ้นที่โรงรถของจ็อบส์ที่แนวคิดสร้างคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเริ่มก่อตัว หลังจากนั้นผนังของโรงรถได้เเยกตัวออกเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมหกชิ้น เคลื่อนที่ได้ ซึ่งมองดูเเล้วเหมือนกับโทรศัพท์มือถือ iPhones

ผู้วิจารณ์ละครหลายคนเเสดงความคิดเห็นทั้งที่ชอบเเละไม่ชอบ ขณะนี้ อุปรากรเรื่อง The (R)evolution of Steve Jobs กำลังจะไปแสดงที่เมืองซีเเอตเติ้ล ซึ่งเป็นฐานของบริษัทเทคคู่เเข่ง ไมโครซอฟท์ และจะไปต่อที่เมืองซานฟรานซิสโกและในเเถว Bay area ซึ่ง สตีฟ จ็อบส์ เติบโตที่นั่น

(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)

XS
SM
MD
LG