ลิ้งค์เชื่อมต่อ

การวิจัยในสหรัฐพบว่ายาปฏิชีวนะไม่มีประโยชน์ในการรักษาโรคไซนัสอักเสบซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส


การวิจัยในสหรัฐพบว่ายาปฏิชีวนะไม่มีประโยชน์ในการรักษาโรคไซนัสอักเสบซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส
การวิจัยในสหรัฐพบว่ายาปฏิชีวนะไม่มีประโยชน์ในการรักษาโรคไซนัสอักเสบซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส

มีคนประมาณ 30 ล้านคนในสหรัฐที่ป่วยด้วยโรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง ส่วนใหญ่รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ แต่เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เตือนว่า การใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไปทำให้เกิดเชื้อโรคดื้อยาที่อันตรายมากขึ้น ขณะนี้บรรดานักวิจัยสุขภาพพบว่ายาปฏิชีวนะรักษาอาการไซนัสอักเสบไม่ได้ผลแล้ว

ยาอะม็อกซิลิน เป็นยาปฏิชีวินะที่นิยมใช้กันมากที่สุดในการรักษาอาการอักเสบต่างๆ นายแพทย์เจย์ พิคคิริลโล่ แห่งภาควิชาแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยวอชิงตันในเมืองเซ็นต์หลุยส์ กล่าวว่า ยาอะม็อกซิลิน น่าจะเป็นยาที่แพทย์นิยมใช้รักษาไซนัสอักเสบ


นายแพทย์พิคคิริลโล่เชี่ยวชาญทางด้านการรักษาอาการไซนัสอักเสบ และกำลังตรวจโพรงจมูกของคนไข้คนหนึ่งอยู่ เขาคนไข้ว่าโพรงจมูกบวม อาการอักเสบทำให้ปวดและมีน้ำมูก

อาการไซนัสอักเสบเริ่มจากการอักเสบในโพรงไซนัสในจุดต่างๆที่อยู่รอบจมูก รอบตาและหน้าผาก เมื่อโพรงไซนัสอักเสบ อาการอักเสบนี้เรียกทั่วไปว่า ไซนัสไซทิส มักเป็นอยู่นานราวสิบวัน คุณมิเชล เฟอร์ราโร่ เป็นผู้ป่วยคนหนึ่งของนายแพทย์พิคคิริลโล่

คุณมิเชล เฟอร์ราโร่ กล่าวว่า ไซนัสอักเสบเป็นโรคที่แย่มาก เวลาอาการอักเสบรุนแรงขึ้นถึงขีดสุด เธอแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย

นายแพทย์เจย์ พิคคิริลโล่ เริ่มทำการทดลองรักษาคนไข้แบบสุ่ม ในเมืองเซ็นท์หลุยส์ ผู้ป่วยทุกคนเป็นไซนัสอักเสบเรื้อรัง บางคนได้รับยาปฏิชีวนะอะม็อกซิลินเป็นเวลาสิบวัน ส่วนคนไข้บางคนได้รับยาอื่นๆเพื่อรักษาตามอาการป่วยเท่านั้นแต่ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ

นายแพทย์พิคคิริลโล่ กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า ก่อนทดลองรักษา ทีมวิจัยคาดหวังว่า ยาปฏิชีวนะจะช่วยใหผู้ป่วยอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ปรากฏว่าอาการของผู้ป่วยไซนัสอักเสบที่รับประทานยาปฏิชีวนะไม่ได้ดีขึ้นเร็วกว่าคนไข้ที่ไม่ได้รับยาปฏิชีวนะเลย

นายแพทย์พิคคิริลโล่ บอกว่า ยาปฏิชีวนะไม่ช่วยให้ผู้ป่วยหายเร็วขึ้น ไม่ช่วยป้องกันอาการกำเริบ และไม่ช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อน จึงสรุปได้ว่ายาปฏิชีวนะไม่มีผลดีใดใดต่อผู้ป่วยไซนัสอักเสบส่วนใหญ่

นั่นเป็นเพราะว่าไซนัสอักเสบเกิดจากเชื้อไวรัส แต่ยาปฏิชีวนะใช้เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียจึงไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสได้ ดังนั้นจึงไร้ประโยชน์หากผู้ป่วยไซนัสอักเสบต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ

นอกจากนี้การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่มีความจำเป็นนี้ยังกระตุ้นให้เชื้อแบคทีเรียดื้อยาและอันตรายมากขึ้น นายแพทย์พิคคิริลโล่ กล่าวว่า คนไข้ไซนัสอักเสบสามารถทุเลาอาการป่วยลงได้ด้วยการรับประทานยาแก้ปวดและยาแก้หวัด ผู้ป่วยควรใช้ยาแก้ไอเพื่อลดอาการเจ็บคอ และควรใช้น้ำยาฉีดล้างโพรงจมูกเพื่อบรรเทาอาการน้ำมูกคัด

คุณมิเชล เฟอร์ราโร่ คนไข้คนเดิม บอกว่า คนไข้ยังสามารถใช้วิธีธรรมชาติอื่นๆช่วยบรรเทาอาการไซนัสอักเสบได้ด้วย อาทิ การอาบน้ำอุ่น การรมจมูกด้วยไอน้ำอุ่นๆที่ผสมด้วยน้ำมันยูคาลิปตัส

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพในสหรัฐ ชี้ว่า แพทย์ต้องเลิกใช้ยาปฏิชีวนะให้กับคนไข้ไซนัสอักเสบโดยเด้ดขาด นอกจากในรายที่อาการอักเสบในโพรงจมูกเกิดจากเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น เพราะนี่เป็นวิธีสำคัญวิธีเดียวที่จะช่วยการควบคุมปัญหาเชื้อแบคทีเรียดื้อยา

XS
SM
MD
LG