ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ผู้นำ ‘จตุภาคี’ ประชุมที่สหรัฐฯ หารือเรื่องอินโด-แปซิฟิกที่ ‘เสรีและมั่นคง’


ซ้ายไปขวา: นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบาเนซี แห่งออสเตรเลีย นายกฯ นเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และนายกฯ ฟูมิโอ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่น ถ่ายรูปร่วมกันก่อนที่จะหารือนอกรอบวงประชุมจตุภาคี ที่รัฐเดลาแวร์ วันที่ 21 กันยายน 2024 (ที่มา: AP)
ซ้ายไปขวา: นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบาเนซี แห่งออสเตรเลีย นายกฯ นเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และนายกฯ ฟูมิโอ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่น ถ่ายรูปร่วมกันก่อนที่จะหารือนอกรอบวงประชุมจตุภาคี ที่รัฐเดลาแวร์ วันที่ 21 กันยายน 2024 (ที่มา: AP)

สี่ผู้นำกลุ่มจตุภาคี หรือกลุ่ม Quad อันได้แก่ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย อินเดีย และญี่ปุ่น ประกาศว่าจะเสริมสร้างความร่วมมือในหลายด้านและตอบสนองต่อความกังวลของประชาชน แต่ได้เน้นย้ำว่าความร่วมมือนี้ไม่ได้มีขึ้นเพื่อต้านทานจีน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต้อนรับผู้นำกลุ่มสมาชิกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อหารือวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ที่เป็นที่อยู่ของประชากรมากกว่าครึ่งโลก และมีขนาดเศรษฐกิจเป็นสัดส่วนสองในสามของโลก

การพบกันครั้งนี้เกิดขึ้นที่บ้านของไบเดนในรัฐเดลาแวร์ และจากตรงนั้น ผู้นำของออสเตรเลีย อินเดีย และญี่ปุ่น ประกาศแนวทางดำเนินการในหลายประเด็นใหญ่ ๆ ในภูมิภาค

ไบเดนพยายามเสนอแนวทางในหลายเรื่อง รวมถึงแนวทางเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเล รวมถึงเรื่องผลกระทบจากกิจกรรมทางทะเลของจีน

ไบเดนกล่าวว่า “พวกเรากำลังประกาศความริเริ่มหลายอย่าง ในการนำไปสู่ผลในทางบวกที่เกิดขึ้นจริงในอินโด-แปซิฟิก ซึ่งรวมถึงการมอบเทคโนโลยีทางทะเลใหม่ ๆ ให้กับหุ้นส่วนในภูมิภาคของเรา เพื่อให้เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในน่านน้ำของพวกเขา (และ) การเปิดความร่วมมือระหว่างหน่วยยามฝั่งเป็นครั้งแรก และขยายทุนของกลุ่ม Quad ไปยังนักศึกษาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

กระนั้น ประเด็นของจีนถูกมองว่าจะเป็นเรื่องหลักที่จะพูดคุยกัน สืบเนื่องจากความเห็นของไบเดนที่กล่าวกับอีกสามผู้นำ แต่สื่อมวลชนบังเอิญได้ยิน ที่ระบุว่ารัฐบาลของเขามองว่าการแสดงอำนาจของจีนในพื้นที่พิพาท สะท้อนถึงการเปลี่ยนยุทธวิธี แต่ยุทธศาสตร์ยังคงเดิม

ไบเดนกล่าวว่า “จีนยังคงมีท่าทีแข็งกร้าว ทดสอบ (ท่าทีดังกล่าว) ไปทั่วภูมิภาค และก็เป็นเช่นนั้นในทะเลจีนใต้ ในทะเลจีนตะวันออก ตอนใต้ของจีน เอเชียใต้ และช่องแคบไต้หวัน และเป็นเช่นนั้นในแง่ของความสัมพันธ์กับเรา รวมถึงในประเด็นด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี”

นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโธนี อัลบาเนซี กล่าวว่าการที่ชาติประชาธิปไตยทั้งสี่ ที่ “คิดเห็นเหมือนกัน” มาทำงานร่วมกันนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ

“พวกเราเชื่อมั่นในทรรศนะที่ว่าอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญ ว่าความมั่นคงและเสถียรภาพคือสิ่งที่พวกเราต้องไขว่คว้าให้ได้มา เช่นเดียวกันกับเรื่องความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันในภูมิภาคของเรา”

นักวิเคราะห์มองว่าไบเดนเห็นความสำคัญของกลุ่ม Quad ในฐานะมรดกที่เขาจะทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลัง

แคธริน เพค จากศูนย์ Center for Strategic and International Studies กล่าวว่ากลุ่ม Quad เป็น “หมากที่สำคัญสำหรับยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก และการยกระดับกลุ่ม Quad ให้ไปถึงระดับผู้นำก็เป็นความเคลื่อนไหวที่สำคัญสำหรับยุทธศาสตร์นั้น เอาแค่ในข้อเท็จจริงที่กลุ่มนี้พบกันเป็นรายปีในระดับผู้นำ ในรัฐบาลของไบเดน ก็ถือว่าค่อนข้างมีนัยสำคัญแล้ว”

นักวิเคราะห์ยังมองด้วยว่าเหล่าผู้นำทั้งสี่จะใช้โอกาสที่ได้พบกันนี้เพื่อหารือกันเป็นการส่วนตัว ถึงความกังวลเรื่องความทะเยอทะยานของจีนที่เพิ่มสูงขึ้น

ราฟิก ดอสซานี นักเศรษฐศาสตร์ทรงคุณวุฒิจากบริษัท RAND research corporation และศาสตราจารย์ด้านการวิเคราะห์นโยบาย ตั้งคำถามว่า ภาวะเผชิญหน้ากันระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะมีผลกับบทสนทนาของกลุ่มการรวมตัวนี้ และหากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว และรัฐบาลปักกิ่งพยายามแสดงอิทธิพลมากขึ้น ก็เชื่อว่าการพูดคุยของกลุ่ม Quad จะเปลี่ยนไปตามบริบทใหม่

หนึ่งในวาทะที่ผู้นำทั้งสี่เน้นย้ำในการพบกันครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผู้นำชุดนี้จะได้เจอกัน เนื่องจากวาระการทำงานของไบเดนใกล้จะสิ้นสุด ก็คือวาทะที่ว่า ผู้นำมาแล้วไป แต่ Quad จะยังอยู่ต่อ

  • ที่มา: วีโอเอ

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG