นักวิจัยค้นพบโปรตีนชนิดหนึ่งในสมองที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุสำคัญของโรคความจำเสื่อมตามวัยที่เรียกว่าดีเมนเทีย การค้นพบนี้อาจจะนำไปสู่การพัฒนาวิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการบำบัดโรคความจำเสื่อมดีเมนเทียมในกลุ่มประชากรวัยทอง
ในปีพุทธศักราช 2553 ประมาณว่ามีผู้สูงวัยที่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ราว 36 ล้านคนทั่วโลกมีอาการความจำเสื่อมตามวัยที่สูงขึ้นหรือที่เรียกว่าดีเมนเทีย แต่ผู้สูงวัยเหล่านี้ไม่ได้ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมแบบอัลไซม์เม่อร์ส์กันหมดทุกคน โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเม่อร์ส มีผลกระทบต่อความสามารถในการคิดพิจารณา ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ
ขณะนี้ ทีมนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยศูนย์การแพทย์ Columbia University Medical Center ในมหานครนิวยอร์ค ได้ค้นพบว่าผู้สูงอายุที่ความจำเสื่อมแบบดีเมนเทียมีระดับโปรตีนชนิดหนึ่งในสมองส่วนที่เรียกว่าฮิปโปแคมปัส (hippocampus) ต่ำกว่าปริมาณปกติ แต่พบว่าผู้ป่วยสมองเสื่อมแบบแบบอัลไซม์เม่อร์สกลับมีโปรตีนตัวนี้ในระดับปกติ
คุณอีรีก เคนเดล ผู้รับรางวัลโนเบลและผู้เชี่ยวชาญด้านความทรงจำ เป็นหัวหน้าการวิจัยที่ค้นพบโปรตีนในสมองชนิดนี้ ซึ่งเรียกว่าโปรตีน RbAp48 เป็นสาเหตุให้ผู้สูงอายุสูญเสียความทรงจำเมื่อวัยสูงขึ้น ทีมนักวิจัยได้ทดสอบดูบทบาทของโปรตีนตัวนี้ต่อความทรงจำในหนูทดลอง
คุณเคนเดล หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่าเมื่อทดลองดึงเอาพันธุกรรมของโปรตีนชนิดนี้ออกจากตัวหนูทดลองที่อายุยังน้อย ปรากฏว่าหนูทดลองจะแสดงอาการความจำเสื่อมที่เกิดตามวัยที่สูงขึ้น แม้ว่าหนูจะยังอายุยังน้อยก็ตาม แต่นักวิจัยไม่พบการขาดโปรตีนชนิดนี้ในหนูทดลองกลุ่มที่ถูกควบคุมให้เป็นโรคสมองเสื่อมแบบอัลไซม์เมอร์ส
อย่างไรก็ดี คุณเคนเดล กล่าวว่า ทีมนักวิจัยไม่สามารถทำให้หนูทดลองเป็นโรคอัลไซม์เม่อร์ด้วยการลดปริมาณโปรตีน RbAp48 นี้ในสมองของหนูทดลอง นี่ทำให้ทีมนักวิจัยเชื่อว่าอาการความจำเสื่อมตามวัยหรือไดเมนเทีย ไม่เกี่ยวโยงกับโรคอัลไซม์เม่อร์ส
คุณเคนเดล หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่าผลการวิจัยนี้อาจจะเป็นประโยชน์ต่อผู้สูงอายุที่มีอาการความจำเสื่อมตามวัย
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่านี่อาจจะช่วยให้นักวิจัยพัฒนาวิธีบำบัดอาการความจำเสื่อมตามวัยได้สำเร็จ เขากล่าวว่าขณะนี้มีความเป็นได้ในการพัฒนาวิธีวินิจฉัยโรคที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้วและคาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะสามารถค้นหาวิธีบำบัดโรคความจำเสื่อมดีเมนเทียที่มีประสิทธิผล
ในปีพุทธศักราช 2553 ประมาณว่ามีผู้สูงวัยที่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ราว 36 ล้านคนทั่วโลกมีอาการความจำเสื่อมตามวัยที่สูงขึ้นหรือที่เรียกว่าดีเมนเทีย แต่ผู้สูงวัยเหล่านี้ไม่ได้ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมแบบอัลไซม์เม่อร์ส์กันหมดทุกคน โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเม่อร์ส มีผลกระทบต่อความสามารถในการคิดพิจารณา ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ
ขณะนี้ ทีมนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยศูนย์การแพทย์ Columbia University Medical Center ในมหานครนิวยอร์ค ได้ค้นพบว่าผู้สูงอายุที่ความจำเสื่อมแบบดีเมนเทียมีระดับโปรตีนชนิดหนึ่งในสมองส่วนที่เรียกว่าฮิปโปแคมปัส (hippocampus) ต่ำกว่าปริมาณปกติ แต่พบว่าผู้ป่วยสมองเสื่อมแบบแบบอัลไซม์เม่อร์สกลับมีโปรตีนตัวนี้ในระดับปกติ
คุณอีรีก เคนเดล ผู้รับรางวัลโนเบลและผู้เชี่ยวชาญด้านความทรงจำ เป็นหัวหน้าการวิจัยที่ค้นพบโปรตีนในสมองชนิดนี้ ซึ่งเรียกว่าโปรตีน RbAp48 เป็นสาเหตุให้ผู้สูงอายุสูญเสียความทรงจำเมื่อวัยสูงขึ้น ทีมนักวิจัยได้ทดสอบดูบทบาทของโปรตีนตัวนี้ต่อความทรงจำในหนูทดลอง
คุณเคนเดล หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่าเมื่อทดลองดึงเอาพันธุกรรมของโปรตีนชนิดนี้ออกจากตัวหนูทดลองที่อายุยังน้อย ปรากฏว่าหนูทดลองจะแสดงอาการความจำเสื่อมที่เกิดตามวัยที่สูงขึ้น แม้ว่าหนูจะยังอายุยังน้อยก็ตาม แต่นักวิจัยไม่พบการขาดโปรตีนชนิดนี้ในหนูทดลองกลุ่มที่ถูกควบคุมให้เป็นโรคสมองเสื่อมแบบอัลไซม์เมอร์ส
อย่างไรก็ดี คุณเคนเดล กล่าวว่า ทีมนักวิจัยไม่สามารถทำให้หนูทดลองเป็นโรคอัลไซม์เม่อร์ด้วยการลดปริมาณโปรตีน RbAp48 นี้ในสมองของหนูทดลอง นี่ทำให้ทีมนักวิจัยเชื่อว่าอาการความจำเสื่อมตามวัยหรือไดเมนเทีย ไม่เกี่ยวโยงกับโรคอัลไซม์เม่อร์ส
คุณเคนเดล หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่าผลการวิจัยนี้อาจจะเป็นประโยชน์ต่อผู้สูงอายุที่มีอาการความจำเสื่อมตามวัย
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่านี่อาจจะช่วยให้นักวิจัยพัฒนาวิธีบำบัดอาการความจำเสื่อมตามวัยได้สำเร็จ เขากล่าวว่าขณะนี้มีความเป็นได้ในการพัฒนาวิธีวินิจฉัยโรคที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้วและคาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะสามารถค้นหาวิธีบำบัดโรคความจำเสื่อมดีเมนเทียที่มีประสิทธิผล
