เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าความดันโลหิตสูงทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ แต่ในการศึกษาครั้งนี้ ทีมนักวิจัยต้องการศึกษาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของระดับความดันโลหิตในคนกลุ่มวัยกลางคนตอนต้น อายุตั้งแต่ 40-55 ปี
คุณนอรีน่า อัลเลน แห่ง Northwestern University School of Medicine ที่ชิคาโก้ เป็นหัวหน้าทีมวิจัยครั้งนี้ ทีมวิจัยได้ศึกษาข้อมูลของผู้เข้าร่วมการวิจัยหลายหมื่นคน มีการค้นดูประวัติระดับความดันโลหิตสูงของคนเหล่านี้ย้อนกลับไปหลายปี หลังจากนั้นทีมวิจัยได้ติดตามเฝ้าดูว่าพวกเขามีอาการป่วยด้วยโรคหัวใจอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่เมื่อวัยเริ่มสูงขึ้น
คุณนอรีน่า อัลเลน หัวหน้าทีมวิจัยชี้ว่าคนที่เริ่มมีอาการความดันโลหิตสูงในช่วงย่างเข้าสู่วัยกลางคนมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจมากกว่าปกติ ทีมวิจัยพบว่าหากความดันโลหิตสูงขึ้นตอนอายุ 55ปี โอกาสเป็นโรคหัวใจจะสูงขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับคนวัยเดียวกันที่ระดับความดันโลหิตปกติ
การศึกษานี้ยังพบด้วยว่า โอกาสเป็นโรคหัวใจจะลดลงในคนที่ระดับความดันโลหิตลดลงในช่วงอายุย่างเข้าวัยกลางคน คุณนอรีน่า อัลเลน หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่าผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นถึงยุทธศาสตร์เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการหัวใจวาย อาการเส้นเลือดในสมองแตก หรืออาการโรคหัวใจอื่นๆ
คุณนอรีน่า อัลเลน นักวิจัยกล่าวว่าจำเป็นมากที่คนเราควรรักษาระดับความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติในช่วงอายุสามสิบหรือสี่สิบปี ด้วยการดูแลสุขภาพร่างกาย อาทิ การรับประทานอาหารที่สมดุลออกกำลังกายสม่ำเสมอและเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดความเครียด นักวิจัยเห็นว่าการดูแลระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจเมื่อเริ่มอายุมากขึ้น
คุณนอรีน่า อัลเลน หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่าการวิจัยในครั้งต่อไป ทีมงานจะศึกษาสุขภาพของกลุ่มคนที่มีระดับความดันโลหิตในระดับปกติแต่เพิ่มสูงขึ้นภายหลัง มีการบำบัดด้วยยาลดความดันโลหิต การศึกษาครั้งใหม่จะเน้นเรื่องผลของยาลดระดับความดันโลหิตสูงกับความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
