ประชาชนนับร้อยในนครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ออกมาชุมนุมบนท้องถนนในวันอังคาร เพื่อประท้วงต่อต้านการดำเนินมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ที่รัฐบาลบังคับใช้กับอุตสาหกรรมการก่อสร้าง
ทางการนครเมลเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ สั่งปิดพื้นที่โครงการก่อสร้างทั้งหมดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจากความกังวลว่า การเคลื่อนย้ายของคนงานก่อสร้างนั้นคือ ปัจจัยที่ทำให้การแพร่กระจายโควิด-19 รุนแรงขึ้น
ภายใต้คำสั่งของรัฐบาลเมือง คนงานก่อสร้างต้องได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 เข็มก่อนจะได้รับอนุญาตให้กลับเข้าทำงานอีกครั้ง
ล่าสุด รัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของนครเมลเบิร์น รายงานตัวเลขผู้ป่วยใหม่จำนวน 603 รายในวันอังคาร ซึ่งเป็นตัวเลขรายวันสูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีมา
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ ประกาศในวันอังคารว่า จะมีการขึ้นค่าปรับสำหรับผู้ที่ละเมิดมาตรการควบคุมและป้องกันการระบาดของโคโรนาไวรัสตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป โดยผู้ที่จงใจละเมิดมาตรการต่างๆอาจต้องโทษค่าปรับสูงสุดถึง 8,400 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มจากอัตรา 2,800 ดอลลาร์ ในปัจจุบัน และยังอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 6 เดือนด้วย
ในส่วนของธุรกิจที่ละเมิดมาตรการต่างๆ ค่าปรับสูงสุดนั้นอยู่ที่ 10,500 ดอลลาร์
นายกรัฐมนตรี อาร์เดิร์น กล่าวว่า ความสำเร็จในการรับมือโคโรนาไวรัสของนิวซีแลนด์นั้นมาจากความเป็นจริงที่ประชาชนให้ความร่วมมือเป็นหลัก แต่กลับยังมีผู้ที่คิดแปลกแยกทำการแหกกฎและทำให้ผู้อื่นตกอยู่ในความเสี่ยงแทน
