อุตสาหกรรมการบินกำลังศึกษาหาวิธีการหรือมาตรการใหม่ๆ ที่จะนำมาใช้ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารสูญหาย เหมือนที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน MH370 ของ Malaysia Airlines ซึ่งหายไปตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค
สมาคมการเดินทางทางอากาศระหว่างประเทศหรือ IATA ซึ่งเป็นตัวแทนของสายการบินต่างๆ 240 สายการบินทั่วโลก ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ากำลังมีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบและพัฒนาระบบติดตามเครื่องบินโดยสารแบบ Real-time ซึ่งจะใช้ระบบเรดาร์ติดตามเครื่องบินตลอดเวลา โดย IATA มีแผนจะเสนอให้นำระบบดังกล่าวมาใช้ในช่วงสิ้นปีนี้
โฆษกของ IATA Perry Flint ให้สัมภาษณ์กับ Voice of America ว่า คณะกรรมการได้เสนอให้นำระบบติดตามเครื่องบินแบบ Real-time มาใช้แทนระบบการถ่ายโอนข้อมูลการบินหรือ streaming ข้อมูลของเที่ยวบินแต่ละเที่ยว โดยระบบใหม่นี้สามารถใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วบนเครื่องบินโดยสาร อย่างไรก็ตาม คุณ Perry Flint ยังไม่สามารถรับรองได้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ เนื่องจาก IATA เป็นสมาคมธุรกิจที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับกฏเกณฑ์ด้านการบินต่างๆ
โฆษกของ IATA ผู้นี้กล่าวว่า เป้าหมายของ IATA คือการหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เครื่องบินโดยสารสูญหายไปโดยแทบจะไร้ร่องรอย เหมือนที่เกิดกับเที่ยวบิน MH370ของ Malaysia Airlines เพราะแต่ละวันนั้นมีเครื่องบินเดินทางนับแสนเที่ยว ทาง IATA จึงต้องการรับรองให้แน่ใจว่าทุกเที่ยวบินสามารถถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัย
ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ฐานข้อมูลด้านการบิน aviation-safety.net ของเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยว่าตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา เคยเกิดเหตุการณ์เครื่องบินสูญหายไปแล้วทั้งหมด 88 ครั้ง ในจำนวนนี้ 62 ครั้งหายไปกลางมหาสมุทรเหมือนที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน MH370 ส่วนอีก 26 ครั้งที่เหลือหายไปเหนือแผ่นดินหรือภูเขา โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1960 – 1970 หรือกว่า 40 ปีมาแล้ว
ผู้จัดการฝ่ายข้อมูลของ aviation-safety.net คุณ Harro Ranter ระบุว่าส่วนใหญ่เครื่องบินที่หายไปกลางมหาสมุทรนั้นเกิดจากสาเหตุที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์หรือน้ำมันหมด ส่วนเครื่องบินที่หายไปในพื้นที่ที่เป็นภูเขานั้น ส่วนใหญ่เกิดจากบินต่ำเกินไปหรือสภาพอากาศเลวร้าย
สำหรับในกรณีของเที่ยวบิน MH370 ที่ยังค้นหาไม่พบนี้ คุณ Harro Ranter บอกว่ามีความแตกต่างจากกรณีเครื่องบินสูญหายครั้งก่อนๆ หนึ่งคือมีจำนวนผู้โดยสารและพนักงานรวมมากที่สุดคือ 239 คน สองคือที่ผ่านมานั้นเหตุการณ์เครื่องบินสูญหายไปนั้นมักเกิดกับเครื่องบินขนส่งสินค้า หรือเครื่องบินส่วนตัวขนาดเล็ก ไม่ใช่เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่เช่นนี้
สามคือ ยุคนี้เทคโนโลยีต่างๆ มีความทันสมัยมากขึ้นแล้ว อีกทั้งระบบความปลอดภัยของเครื่องบินโบอิ้ง 777 ก็จัดได้ว่าดีที่สุดในอุตสากรรมการบินในปัจจุบัน เช่นระบบนำทางด้วยดาวเทียมหรือ GPS ซึ่งยังไม่มีใช้หรือยังไม่ก้าวหน้ามากนักในช่วง 40-50 ปีก่อน จึงถือเป็นเรื่องแปลกที่เที่ยวบิน MH370 หายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นนี้
รายงานจาก Michael Lipin / เรียบเรียงโดยทรงพจน์ สุภาผล
