นายกหญิงฯ อังกฤษ ขอโทษในประเด็นที่ทำให้เศรษฐกิจแดนผู้ดีปั่นป่วน พร้อมปรับปรุงแก้ไข และจะเดินหน้านำพาเศรษฐกิจประเทศให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ท่ามกลางช่วงเวลาอันยากลำบากที่รออยู่ข้างหน้า ตามรายงานของรอยเตอร์
ลิส ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีในวันจันทร์ว่า “ดิฉันขอแสดงความรับผิดชอบและขอโทษต่อความผิดพลาดที่ผ่านมา” และว่า “ดิฉันต้องการผลักดัน (มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ) เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการรับมือกับค่าพลังงาน รับมือกับประเด็นภาษีที่พุ่งสูง แต่เราทำมากเกินไปและเร็วเกินไป”
พร้อมกันนี้ ผู้นำหญิงอังกฤษ ยืนยันว่าเธอจะยัง “อยู่ต่อ” และว่าเธอจะนำพาพรรคอนุรักษ์นิยมไปสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไปในอีก 2 ปีข้างหน้า
บทสัมภาษณ์ของนายกฯ หญิงอังกฤษ เมื่อวันจันทร์ มีขึ้นหลังจาก เจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนล่าสุดของอังกฤษ ประกาศในวันจันทร์ว่าได้ยกเลิกแผนลดภาษีของนายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ “เกือบทั้งหมด” รวมทั้งนโยบายด้านพลังงานและคำมั่นที่ว่า จะไม่มีการลดค่าใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มเติมอีก ซึ่งนายกฯ หญิงรายนี้ นั่งฟังการถอดนโยบายเศรษฐกิจของเธอจากปากของขุนคลังคนใหม่ในสภาในวันเดียวกันนี้ด้วย
รมต.ฮันท์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้ากระทรวงการคลังเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว หลังนายกฯหญิงของอังกฤษปลดอดีตรัฐมนตรีคลัง ควาซี ควอร์เทง ออกจากตำแหน่ง หลังทำหน้าที่นี้มาได้เพียงไม่ถึง 6 สัปดาห์ ด้วยจุดประสงค์ที่จะพยายามฟื้นฟูความน่าเชื่อถือด้านนโยบายการคลังของรัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งเสียหายหนัก จากความพยายามของทั้งสองคนในการเร่งผลักดันแผนลดภาษีโดยไม่ได้อธิบายรายละเอียดใด ๆ
ทรัสส์ และ ควอร์เทง ร่วมกันประกาศแผนลดภาษีให้ได้เป้า 45,000 ล้านปอนด์เมื่อวันที่ 23 กันยายน ซึ่งคำประกาศนั้นส่งผลให้ตลาดหุ้นระส่ำหนักทันที จนธนาคารกลางของอังกฤษต้องออกมาแทรกแซงเพื่อไม่ให้กองทุนบำนาญของประเทศได้รับผลกระทบไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า คำขอโทษของผู้นำหญิงอังกฤษครั้งนี้ จะช่วยลดความรุนแรงจากผู้ที่เห็นต่างภายในพรรคอนุรักษ์นิยมได้หรือไม่ เนื่องจากเริ่มมีกระแสกดดันให้ทรัสส์ลาออกทั้งที่ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้เพียง 6 สัปดาห์ และมีนักการเมืองภายในพรรคอีกหลายสิบคนที่กังวลถึงอนาคตทางการเมืองของพวกเขาว่าอาจจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งหน้าด้วยเช่นกัน
ด้านผลสำรวจความเห็นล่าสุดจาก YouGov ชี้ว่า กว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกพรรคเห็นว่านายกฯ หญิงอังกฤษควรประกาศลาออก และราว 1 ใน 3 ของการสำรวจเห็นว่า อดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ที่ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ จากข่าวฉาวด้านจริยธรรม ควรกลับมารับตำแหน่งผู้นำอังกฤษอีกครั้ง
- ที่มา: รอยเตอร์
