รัฐบาลอินเดียตัดสินใจวางมัดจำเพื่อสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 จากผู้ผลิตรายใหม่ในประเทศ แม้จะยังไม่มีการรับรองวัคซีนสูตรใหม่นี้ หลังศาลสูงของประเทศกดดันให้รัฐบาลจัดหายามาดูแลประชาชนในประเทศให้มากขึ้นโดยด่วน
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า รัฐบาลอินเดียสั่งซื้อวัคซีนจำนวน 300 ล้านโดสจากบริษัท Biological-E Ltd. ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองไฮเดอราบัด รัฐอานธรประเทศ พร้อมวางมัดจำเป็นจำนวนเงิน 15,000 ล้านรูปี หรือประมาณ 205 ล้านดอลลาร์แล้ว ตามแถลงการณ์ของรัฐบาลที่มีออกมาในวันพฤหัสบดี
รายงานข่าวระบุว่า ขณะที่ การทดสอบวัคซีนสูตรใหม่ของอินเดียกำลังอยู่ในขั้นตอนที่ 3 ทางบริษัทมีแผนจะเริ่มแจกจ่ายวัคซีนแก่ประชาชนได้ในระหว่างเดือนสิงหาคมและเดือนธันวาคมนี้
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลสูงอินเดียร้องขอให้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี เตรียมนโยบายแจกจ่ายวัคซีนขึ้นใหม่ ที่จะคิดราคาวัคซีนที่เท่าเทียมกันสำหรับผู้รับทุกคน ขณะที่ขยายการฉีดเพื่อปกป้องกลุ่มคนยากจนด้วย
สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า หลังเกิดเหตุขาดแคลนวัคซีนในอินเดียทำให้มีการคาดกันว่า หากการแจกจ่ายวัคซีนยังคงอยู่ในระดับปัจจุบันต่อไป อินเดียน่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 2 ปี กว่าจะสามารถฉีดวัคซีนประชากรสัดส่วน 75 เปอร์เซ็นต์ให้ครบ 2 โดส แต่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี โมดี ประกาศว่า จะทำการฉีดวัคซีนให้ชาวอินเดียทุกคนให้ได้ภายในสิ้นปีนี้
ปัจจุบัน มีประชากรอินเดียเพียง 4.7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว ขณะที่ทั้งประเทศกำลังฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ระลอกที่ 2 ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 170,000 คน ในช่วงเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคม
กระทรวงสาธารณสุขอินเดียออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า ข้อตกลงซื้อวัคซีนจาก Biological-E Ltd. คือส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลของอินเดียในการสนับสนุนผู้พัฒนาและผลิตวัคซีนของประเทศ ในรูปแบบของการสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนา รวมทั้งเงินทุนด้วย
ในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น อินเดียรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดใหม่จำนวน 134,154 คนในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงถึงกว่า 65 เปอร์เซ็นต์จากตัวเลขสูงสุดที่กว่า 414,100 คนเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม และทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมกลายมาเป็นกว่า 28.4 ล้านคน ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 2 ของโลก ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มนั้นอยู่ที่ 2,887 คน และทำให้ตัวเลขสะสมปรับขึ้นมาอยู่ที่ 337,989 คน ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 3 รองจากสหรัฐฯ และบราซิล
ขณะเดียวกัน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินเดียเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า รัฐบาลกรุงนิวเดลีได้เริ่มเจรจากับรัฐบาลกรุงวอชิงตัน เพื่อให้ช่วยดำเนินการส่งวัตถุดิบการผลิตวัคซีนให้โดยไม่ขาดตอนแล้ว
