ลิ้งค์เชื่อมต่อ

เงินทองต้องรู้ อยู่อย่างไรให้รอดเมื่อตกงาน


FILE PHOTO: Shoppers carry bags of purchased merchandise at the King of Prussia Mall, United States' largest retail shopping space, in King of Prussia
FILE PHOTO: Shoppers carry bags of purchased merchandise at the King of Prussia Mall, United States' largest retail shopping space, in King of Prussia
Survival Tips After Lost Income
please wait

No media source currently available

0:00 0:04:07 0:00

การศึกษาวิจัยเมื่อต้นปีนี้พบว่า 1 ใน 2 ของผู้คนทั่วโลกมีรายได้ลดลงเนื่องจากการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่

เมื่อเดือนพฤษภาคม สำนักข่าว Reuter มีรายงานว่าประชากรในประเทศที่มีรายได้น้อยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการสูญเสียงานหรือถูกลดชั่วโมงทำงานปกติลง

ผู้เชี่ยวชาญของบริษัท Gallup ในสหรัฐฯ ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้คน 300,000 คนใน 117 ประเทศ และพบว่าครึ่งหนึ่งของผู้ที่มีงานทำมีรายได้ลดน้อยลงเนื่องจากการระบาดใหญ่ นักวิจัยของ Gallup ยังระบุด้วยว่า อัตราการลดของรายได้ดังกล่าวมีตั้งแต่ที่สูงถึง 76% ในประเทศไทยไปจนถึง 10% ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ทั้งนี้การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อคนงานบางกลุ่มหนักกว่าคนอื่น ๆ

ในหลายๆ ประเทศ ผู้หญิงมีสัดส่วนมากเป็นพิเศษในธุรกิจที่ให้ค่าตอบแทนต่ำ เช่น ร้านค้าปลีก การท่องเที่ยว และการบริการด้านอาหาร การศึกษาของ Oxfam องค์กรการกุศลระดับนานาชาติพบว่าการระบาดใหญ่ครั้งนี้ทำให้ประชากรหญิงทั่วโลกต้องเสียรายได้ถึง 8 แสนล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม มีหลายวิธีที่จะช่วยให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากทางการเงินนี้ไปได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินบางคนได้ให้ข้อเสนอแนะกับ the Associated Press ไว้ดังนี้

Manisha Thakor ผู้ก่อตั้งบริษัท MoneyZen ในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ได้สอนวิธีจัดการเรื่องการเงิน โดยกล่าวว่าสิ่งสำคัญคือต้องยอมรับว่ารายได้ของคุณลดลง อย่าปฏิเสธปัญหาหรือหลีกเลี่ยงการจัดการกับการสูญเสียรายได้ เพราะจะมีแต่ทำให้สถานการณ์แย่ลง

Athena Valentine Lent ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Money Smart Latina กล่าวด้วยว่าการเผชิญหน้าและยอมรับปัญหาการเงินของตนโดยตรงและทันทีเป็นสิ่งสำคัญ และว่าการรักตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่อย่าปล่อยให้การตกงานหรือรายได้ที่ลดลงมาทำลายความรู้สึกมีคุณค่าในตัวเอง

นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญคือต้องทราบค่าใช้จ่ายรายเดือนหรือรายสัปดาห์ที่แน่นอน ว่าใช้จ่ายเดือนละเท่าไหร่? ซึ่งรวมถึงเรื่องจุกจิกอย่างเช่น การนั่งรถประจำทาง หรือการซื้อกาแฟระหว่างทางไปทำงาน ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้จัดทำแผนค่าใช้จ่าย หรืองบประมาณและทบทวนให้บ่อยเท่าที่จำเป็น

และท้ายที่สุด ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้สอดคล้องกับระดับรายได้ใหม่เป็นเรื่องที่สำคัญ หยุดใช้จ่ายเงินในสิ่งที่ไม่จำเป็น

Lent แนะนำว่า “อย่าซื้อถ้าไม่จำเป็น” และยังแนะนำให้ดูบิลค่าใช้จ่าย เพราะคุณอาจกำลังชำระค่าบริการในสิ่งไม่จำเป็น อย่างเช่น คุณอาจต้องการอินเทอร์เน็ต แต่ไม่จำเป็นต้องมีเคเบิล อาจต้องการโทรศัพท์ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้บริการเสริมทั้งหมด หากคุณต้องการดูภาพยนตร์หรืออ่านหนังสือ ลองไปยืมที่ห้องสมุดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หรืออาจจะจัดให้มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนหนังสือหรือเสื้อผ้าในชุมชนของตนได้

นอกจากนี้ อาหาร ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้ประหยัดเงินได้อย่างมาก

Lent แนะนำให้ทำอาหารทานเองที่บ้าน ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ แนะนำให้ซื้อสินค้าลดราคาในปริมาณมากๆ แล้วแช่แข็งไว้บางส่วน บ้างก็บอกว่าควรลดเนื้อสัตว์ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูง

ควรทำรายการซื้อของเมื่อไปช้อปปิ้งและยึดตามรายการอย่างเคร่งครัด วางแผนอาหารสำหรับทั้งสัปดาห์ ค้นคว้าแนวคิดเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพแต่ราคาไม่แพง เมื่อทำอาหารเย็น ให้ทำเผื่อมื้อกลางวันหรือมื้อเช้าในวันถัดไปเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ลองปลูกผลไม้ ผัก และสมุนไพรเอง แม้แต่คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ขนาดเล็กก็สามารถปลูกในภาชนะขนาดเล็กๆ ได้

Lent กล่าวอีกว่าถ้าหากรู้ว่าการเงินจะตึงในช่วงระยะเวลาหนึ่งให้เริ่มออมเงินในทันที และถ้าเป็นไปได้ ให้มองหาวิธีหาเงินพิเศษ เช่นการขายของที่ไม่ต้องการอีกต่อไป หรืออาจหางานพิเศษทำ
ลองมองหาวิธีใช้ประโยชน์จากชุมชน เช่นคุณอาจสามารถประหยัดค่าเดินทางได้โดยการแชร์รถ หรืออาจใช้คนเลี้ยงเด็กร่วมกัน

Thakor จากบริษัท MoneyZen มีข้อเสนอแนะอีกอย่างหนึ่งคือ พยายามเก็บเงินไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินบ้าง ด้วยวิธีนี้หากประสบปัญหาเรื่องการเงินในอนาคต ก็จะมีเงินบางส่วนที่จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตต่อไปได้

ที่มา: Reuters

XS
SM
MD
LG