ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ชาวอเมริกันหมดไปกับ ‘ไฟประดับประดา’ เท่าไหร่ช่วงเทศกาลปลายปี?


ประชาชนเข้าชมเทศกาลแสงสี ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ เมื่อ 15 ธันวาคม 2023 (ที่มา: AFP)
ประชาชนเข้าชมเทศกาลแสงสี ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ เมื่อ 15 ธันวาคม 2023 (ที่มา: AFP)

แบบสำรวจเผย ชาวอเมริกันใช้เงินไปกับไฟประดับประดาในช่วงเทศกาลคริสต์มาส 200-400 ดอลลาร์ การศึกษาเคยชี้ว่า ไฟฟ้าที่ใช้ไปกับการตกแต่งทั่วประเทศสามารถเลี้ยงประเทศเล็กๆ ได้ทั้งปี

หนึ่งในสัญญาณว่าเทศกาลเฉลิมฉลองปลายปีได้มาถึงแล้วในสหรัฐฯ คือไฟประดับประดาบนอาคารบ้านเรือน และสถานที่สาธารณะ ซึ่งจะเห็นกันตั้งแต่ช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้าในเดือนพฤศจิกายน เรื่อยไปจนถึงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ในเดือนถัด ๆ ไป

ในปี 2023 แบบสำรวจของเว็บไซต์ Today’s Homeowner สำรวจความเห็นชาวอเมริกัน 3,000 คน เรื่องการตกแต่งบ้านในช่วงวันหยุดปลายปี พบว่าผู้ตอบแบบสำรวจ 70% ระบุว่าจะตกแต่งที่อยู่อาศัยของตนในช่วงเทศกาล ในวงเงินเฉลี่ยราว 384 ดอลลาร์ (ราว 13,300 บาท)

ราคาข้างต้นยังไม่นับรวมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าไฟฟ้า รวมถึงงบประมาณในการติดตั้งไฟประดับประดาด้วย แบบสำรวจชุดเดิมพบว่า ต้นทุนเฉลี่ยสำหรับการจ้างคนมาติดตั้งนั้น อยู่ที่ราว 1,000 ดอลลาร์ (ราว 34,000 บาท) แต่ถ้าหากติดตั้งเอง ต้นทุนเฉลี่ยจะอยู่ที่ 264 ดอลลาร์เท่านั้น (ราว 9,100 บาท)

แบบสำรวจจากสมาพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติ (NRF) ก็ประเมินว่าการจับจ่ายใช้สอยไปกับอุปกรณ์ประดับประดาและสิ่งของประจำฤดูกาลจะอยู่ที่ราว ๆ 255 ดอลลาร์ (ราว 8,800 บาท) และคาดว่ายอดการชอปปิ้งในภาพรวมจะเพิ่มสูงขึ้น จากเดิมที่ 833 ดอลลาร์ในปี 2022 เป็น 875 ดอลลาร์

นอกเหนือจากคำถามเรื่องงบประมาณ ก็คือคำถามว่า ไฟประดับประดาเหล่านี้ใช้ไฟฟ้าไปกี่มากน้อย นิตยสาร Forbes อ้างข้อมูลจากบริษัทพลังงาน Arcadia เมื่อปี 2017 ประเมินไว้ว่าชาวอเมริกันจะใช้ไฟฟ้าไปกับไฟเทศกาลในเดือนธันวาคมที่ 3,500 ล้านกิโลวัตต์

ยอดดังกล่าวถือว่าเป็นการประเมินที่น้อยกว่าผลการศึกษาเมื่อปี 2008 โดยกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ที่พบว่า ในปี 2007 สหรัฐฯ ใช้ไฟฟ้าไปกับไฟประดับประดาช่วงเทศกาลปลายปีไปเป็นจำนวน 6,600 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ใกล้เคียงกับการใช้ไฟฟ้าในประเทศเล็ก ๆ อย่างเอล ซัลวาดอร์ ในปี 2021 ทั้งปี ที่ 6,400 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง จากข้อมูลที่ World Data รวบรวม

อย่างไรก็ตาม การศึกษาดังกล่าวทำขึ้นในยุคที่หลอดไฟแบบ LED ยังมีสัดส่วนราว 5% ในตลาดไฟเทศกาล จึงมีการคาดการณ์ว่าหากหลอดไฟ LED แพร่หลายมากขึ้น ก็จะสามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้มากขึ้น เนื่องจากคุณสมบัติการให้แสงได้มากกว่าด้วยกำลังไฟฟ้าที่ต่ำกว่า และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า

เว็บไซต์สหกรณ์ด้านการไฟฟ้า United Power ที่รัฐโคโลราโด ก็เขียนบทความแนะนำว่า หากต้องการประหยัดไฟ ควรใช้ไฟ LED ในการตกแต่งบ้าน และควรถอดปลั๊กเครื่องไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานด้วย เพราะแม้ว่าจะไม่ได้ใช้งาน แต่ก็ยังกินไฟฟ้าได้อยู่

ที่มา: Today’s Homeowner, NRF, Forbes, United Power, World Data, U.S., Department of Energy

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG