หนังสือพิมพ์ Sunday Times ในอังกฤษ รายงานข่าวว่าสมาชิก 2 คนในคณะกรรมาธิการบริหารของสมาพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศหรือฟีฟ่า เสนอขายเสียงในการลงมติเลือกประเทศเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2018 แลกกับเงินจำนวนหนึ่ง โดย Sunday Times ได้ระบุตัวสมาชิกระดับสูงของฟีฟ่าทั้ง 2 คนนั้น ว่าคือนาย Amos Adamu จากไนจีเรีย และนาย Reynald Temaril จากตาฮิตี ซึ่งต้องการเงินทุนไปสนับสนุนโครงการพัฒนานักฟุตบอลในประเทศตนเอง โดยในกรณีของนาย Amos Adamu นั้น Sunday Times ได้เปิดเผยวีดีโอเสียงของนาย Adamu ที่ต้องการให้มีการจ่ายเงินจำนวน 800,000 ดอลล่าร์แลกกับการลงมติ
ปัจจุบันคณะกรรมาธิการบริหารของฟีฟ่านั้นมีอยู่ด้วยกัน 24 คน ซึ่งจะเป็นผู้ลงมติเลือกประเทศเจ้าภาพฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย คุณ Matt Hughes ผู้สื่อข่าวของ Sunday Times ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Sky News ในอังกฤษว่า ข้อกล่าวหาครั้งนี้เป็นเรื่องร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อฟีฟ่าเกี่ยวกับกระบวนการคัดเลือกประเทศเจ้าภาพ และยังทำให้ประธานฟีฟ่านาย Sepp Blatter มีคำถามมากมายที่ต้องตอบ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวบางคนของหนังสือพิมพ์ Sunday Times ซึ่งปลอมตัวเป็นนักรณรงค์วิ่งเต้นให้แก่บริษัทจากสหรัฐ เพื่อล่อซื้อเสียงการลงมติของสมาชิกคณะกรรมาธิการฟีฟ่า ยืนยันชัดเจนว่าคณะกรรมการของสหรัฐที่ดูแลเรื่องการยื่นข้อเสนอเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก มิได้เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการเปิดโปงโฉมหน้าผู้บริหาร 2 คนของฟีฟ่าในครั้งนี้แต่อย่างใด
อีกด้านหนึ่งที่กรุงลอนดอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ William Hague ประกาศว่ากระบวนการคัดเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลกควรเป็นไปอย่างสะอาดและโปร่งใส รัฐมนตรี Hague กล่าวว่าข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตครั้งนี้เป็นเรื่องร้ายแรง และทุกฝ่ายต่างหวังให้กระบวนการคัดเลือกประเทศเจ้าภาพกระทำอย่างถูกต้องเที่ยงตรง ซึ่งหมายความว่าทุกคนต้องยอมรับกระบวนการดังกล่าวและผลที่ออกมาด้วยและในวันอาทิตย์ ทางฟีฟ่ารับปากว่าจะมีการไต่สวนเรื่องนี้ และกำลังรอหลักฐานต่างๆให้ครบถ้วนสมบูรณ์
สำหรับการประกาศผลว่าประเทศใดจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2018 นั้น จะมีขึ้นในวันที่ 2 ธันวาคม โดยประเทศที่แข่งขันกันอยู่ตอนนี้คืออังกฤษ รัสเซีย เบลเยี่ยมกับเนเธอร์แลนด์ซึ่งเสนอชื่อร่วมกัน เช่นเดียวกับสเปนกับโปรตุเกสที่เสนอชื่อเป็นเจ้าภาพร่วมกันในการแข่งขันฟุตบอลโลกอีก 8ปีข้างหน้า