ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ผลโพลล์ชี้ 'ฮิลลารี คลินตัน' มีคะแนนนำ 'โดนัลด์ ทรัมป์' เล็กน้อยในวันเลือกตั้ง


REUTERS Trumps Voting at PS 59 in New York, NY
REUTERS Trumps Voting at PS 59 in New York, NY
please wait

No media source currently available

0:00 0:04:40 0:00

คูหาเลือกตั้งในรัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ เริ่มเปิดทำการตั้งแต่ 7:00 น. ในวันเลือกตั้ง ส่วนเวลาปิดนั้นจะแตกต่างกันไปตามกฎหมายของมลรัฐ ปีนี้มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วมากถึง 46 ล้านคนจากจำนวนผู้ใช้สิทธิทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะมีราว 80 ถึง 100 ล้านคน

โดยเมื่อวันเลือกตั้งเริ่มขึ้น นางฮิลลารี คลินตัน มีคะแนนนำนายโดนัลด์ ทรัมป์ อยู่โดยเฉลี่ย 2-3 จุด

และในการหาเสียงวันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง นางฮิลลารี คลินตัน กล่าวว่า เธอจะเป็นประธานาธิบดีสำหรับทุกคน ไม่ว่าคนนั้นจะออกเสียงให้เธอหรือไม่ก็ตาม ส่วนโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าชัยชนะของตนจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงของประเทศ

การเลือกตั้งใหญ่ในสหรัฐฯ ปีนี้ นอกจากการเลือกประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีแล้ว คนอเมริกันยังจะออกเสียงเลือกวุฒิสมาชิก 34 คน จากจำนวน 100 ที่นั่งในสภาสูง ซึ่งมีวาระดำรงตำแหน่ง 6 ปี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีวาระดำรงตำแหน่งคราวละ 2 ปีทั้งสภา 435 คนด้วย

โดยพรรคเดโมแครตต้องการที่นั่งเพิ่มขึ้นในวุฒิสภาอย่างน้อย 4 ที่ เพื่อครองเสียงข้างมากในสภาสูง แต่สำหรับสภาผู้แทนราษฎรนั้นคาดว่าพรรครีพับริกันจะยังสามารถครองเสียงข้างมากได้ต่อไป

อาจารย์ Allan Lichtman นักประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ ชี้ว่าไม่ว่าใครจะชนะการเลือกตั้ง บุคคลนั้นจะมีปัญหาท้าทายรออยู่หลายเรื่อง เช่นหากฮิลลารี คลินตัน ชนะการเลือกตั้ง เธอจะต้องหาทางสมานรอยร้าวและความแตกแยก ซึ่งเกิดขึ้นจากการหาเสียงของทั้งสองฝ่าย และจัดทำนโยบายซึ่งเป็นที่พอใจของฝ่ายที่ต่อต้านเธอ

ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็จะต้องลดการใช้โวหารซึ่งสร้างความแตกแยกลง และสรรหาบุคคลที่น่าเชื่อถือเป็นที่ยอมรับเข้าร่วมทำงาน

และไม่ว่าใครที่ชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ ก็จะสร้างประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น

กล่าวคือ นางฮิลลารี คลินตัน จะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ถ้าชนะการเลือกตั้งก็จะเป็นนักธุรกิจคนนอกรายแรก ผู้ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการบริหารงานภาครัฐ หรือเคยผ่านการเลือกตั้งมาก่อนที่จะได้เป็นผู้นำอำนาจฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ

XS
SM
MD
LG