ศูนย์ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกได้ผ่านหลัก 5 ล้านคนแล้ว โดยอยู่ที่ 5,000,425 ณ ช่วงเช้าวันจันทร์ตามเวลาในสหรัฐฯ
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจาก 4 ล้านคนเป็น 5 ล้านคน ภายในเวลาเพียง 4 เดือน คือตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีนี้ แม้ว่าจะมีการฉีดวัคซีนโควิดไปแล้วหลายพันล้านโดสทั่วโลก
เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ แอนโตนิโอ กูเตอร์เรส กล่าวในวันจันทร์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตเกิน 5 ล้านคนนี้ถือเป็น "สิ่งที่น่าอับอายทั่วโลก" และยิ่งตอกย้ำถึงปัญหาความไม่เท่าเทียมด้านวัคซีนระหว่างประเทศร่ำรวยกับประเทศยากจน
แถลงการณ์ของนายกูเตอร์เรส ระบุว่า "ยอดผู้เสียชีวิตนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนหน้ากระดาษ แต่เป็นพ่อแม่ เป็นพี่น้อง ลูกชายลูกสาว ครอบครัว เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงานของใครบางคนที่ต้องจบชีวิตลงเพราะเชื้อไวรัสที่ไร้ความปราณีและไม่มีเส้นแบ่งพรมแดน"
เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติกล่าวด้วยว่า หลักไมล์ที่น่าเศร้านี้คือการตอกย้ำว่า ในขณะที่ประเทศร่ำรวยกำลังฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็มที่สาม แต่กลับมีเพียง 5% ของประชากรในแอฟริกาที่เพิ่งได้รับวัคซีนครบโดส
นายกูเตอร์เรสกระตุ้นให้บรรดาผู้นำโลกสนับสนุน "ยุทธศาสตร์โครงการวัคซีนโลก" หรือ Global Vaccination Strategy ที่เพิ่งเปิดตัวร่วมกับองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เมื่อเดือนที่แล้ว โดยมีเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ประชากรทุกประเทศในโลกให้ได้ถึง 40% ภายในสิ้นปีนี้ และเพิ่มเป็น 70% ภายในกลางปีหน้า
"วิธีทีดีที่สุดในการรำลึกถึงผู้เสียชีวิต 5 ล้านคนนั้น คือการสร้างความเท่าเทียมทางวัคซีนให้เกิดขึ้นจริง ด้วยการเพิ่มความพยายามในการปราบปรามเชื้อไวรัสนี้ให้ได้" เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติกล่าว