เรือของกองทัพเรือจีนแล่นตามเรือรบสหรัฐฯ ขณะผ่านช่องแคบไต้หวันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามการเปิดเผยของกองทัพจีน โดยระบุว่าภารกิจของสหรัฐฯ ในช่องแคบไต้หวันกำลังส่งสัญญาณผิด ๆ ให้แก่บรรดาผู้สนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระของไต้หวัน
ที่ผ่านมา จีนกล่าวอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และไม่พอใจที่สหรัฐฯ พยายามยอมรับสถานะของไต้หวัน รวมทั้งการขายอาวุธให้แก่กองทัพไต้หวันและการเดินเรือผ่านช่องแคบไต้หวันด้วย
ทางด้านกองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุว่า เรือรบติดขีปนาวุธ USS Mustin ได้ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวณผ่านช่องแคบไต้หวันตามปกติเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อแสดงถึงเสรีภาพในการเดินเรือในแถบนี้ภายใต้นโยบายอินโด-แปซิฟิก ของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบัน โดยในปีนี้ เรือของกองทัพสหรัฐฯ ได้แล่นผ่านจุดยุทธศาสตร์สำคัญนี้แล้ว 12 ครั้ง
ส่วนกองทัพจีนมีแถลงการณ์ว่า กองทัพเรือและกองทัพอากาศจีนได้ติดตามและตรวจสอบเรือรบสหรัฐฯ จนกระทั่งออกไปจากช่องแคบไต้หวันในวันเสาร์ พร้อมตำหนิรัฐบาลกรุงวอชิงตันว่าพยายามโอ้อวดศักยภาพทางการทหารและใช้ไต้หวันเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านยุทธศาสตร์ของตัวเอง ทำให้เกิดความตึงเครียดและสั่นคลอนเสรีภาพในภูมิภาคนี้
ตั้งแต่ประธานาธิบดีหญิงของไต้หวัน ไช่ อิง-เหวิน เข้ารับตำแหน่งเมื่อปี ค.ศ. 2016 ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่เริ่มห่างเหินมากกว่าเดิม ในขณะที่สหรัฐฯ กลับมีความใกล้ชิดกับรัฐบาลไต้หวันชุดนี้มากขึ้นทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ ภายใต้นโยบายควบคุมการแผ่ขยายอิทธิพลของจีนในแถบเอเชียแปซิฟิก โดยมีไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ เป็นพันธมิตรสำคัญ
