ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวในวันอังคาร เรียกร้องหาทางออกในประเด็นนิวเคลียร์อิหร่าน พร้อมแสดงการสนับสนุนสิทธิและผลประโยชน์ของอิหร่าน ระหว่างที่ประธานาธิบดีอิหร่านการเยือนจีนอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้ ตามการเปิดเผยของสื่อทางการจีน
ผู้นำจีน กล่าวกับประธานาธิบดี เอบราฮิม ไรซี แห่งอิหร่าน ที่เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเมื่อวันอังคารว่า จีนจะยังคง "มีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์" ในการหารือเพื่อรื้อฟื้นการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ภายใต้สนธิสัญญาว่าด้วยโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อปี ค.ศ. 2015 มุ่งควบคุมการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านเพื่อแลกกับการยกเลิกมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจ โดยประเทศที่ร่วมลงนามในสนธิสัญญาดังกล่าวประกอบด้วย สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย จีน และสหภาพยุโรป
แต่เมื่อปี 2018 อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว โดยกล่าวว่าข้อตกลงนี้ไม่ได้ช่วยในการลดกิจกรรมนิวเคลียร์ของอิหร่าน และนำมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจกลับมาบังคับใช้
ที่ผ่านมา จีนวิจารณ์สหรัฐฯ ในการถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว และค้านว่า สหรัฐฯ ควรเป็นฝ่ายเริ่มต้นในการรื้อฟื้นข้อตกลงนี้
ก่อนหน้าการเยือนจีนของผู้นำอิหร่านที่เริ่มต้นในวันอังคาร ปธน.ไรซี เขียนบทความบรรณาธิการใน People's Daily ว่าจีนและอิหร่านเชื่อว่า นโยบายที่ดำเนินการเพียงฝ่ายเดียว (unilateralism) และมาตรการ “รุนแรง” อย่างเช่นมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจ “ที่ไม่ยุติธรรม” เป็นสาเหตุหลักของวิกฤตและความไม่ปลอดภัยในโลกนี้ พร้อมทั้งกล่าวว่า ความพยายามของอิหร่านในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันจะไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศ
ด้านประธานาธิบดีสี กล่าวว่า “ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จีนจะไม่ย่อหย่อนในการพัฒนาความร่วมมือฉันท์มิตรกับอิหร่าน และส่งเสริมการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีนและอิหร่าน”
จีนกล่าวว่า พร้อมที่จะกระชับความร่วมมือกับอิหร่านในด้านการค้า การเกษตร อุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน เช่นเดียวกับการนำเข้าผลิตภัณฑ์การเกษตรคุณภาพสูงของอิหร่าน
ก่อนหน้านี้ ทั้งสองผู้นำให้คำมั่นว่าจะเสริมสร้างความเป็นพันธมิตรอันแข็งแกร่ง หลังการพบกันนอกรอบในการประชุมสุดยอด Shanghai Cooperation Organization (SCO) ที่อุซเบกิสถาน เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
- ที่มา: รอยเตอร์