ช่วงสองปีที่ผ่านมา รัฐบาลปักกิ่งในฐานะหัวเรือใหญ่ที่ก่อตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนา หรือ AIIB (Asian Infrastructure Development Bank) สามารถสยบคำสบประมาทที่ว่าสถาบันแห่งนี้คงประสบปัญหาในการหาแนวร่วมและการให้เงินกู้โครงการต่างๆ
ธนาคาร AIIB พร้อมด้วยธนาคาร New Development Bank ที่อยู่ที่ประเทศจีนเช่นกันร่วมกันให้เงินกู้สนับสนุนการสร้างโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน มูลค่ารวม 3,000 ล้านดอลลาร์
และเพื่อเป็นการสานงานต่อเนื่องและขยายเครือข่ายความร่วมมือกับประเทศต่างๆ จีนจะเป็นเจ้าภาพการประชุม One Belt, One Road ในเดือนพฤษภาคม ที่จะมีผู้นำจากหลายประเทศเข้าร่วมงาน
ผู้นำโลกที่ตอบรับว่าจะมาร่วมประชุม ประกอบด้วย ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย นายกรัฐมนตรีเทเรซ่า เมย์ ของอังกฤษ และประธานาธิบดีโรดริโก้ ดูเตอร์เต้ แห่งฟิลิปปินส์
เมื่อพิจารณาถึงจุดยืนของสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีโอบามาที่หมดสมัยไป ซึ่งไม่สนับสนุนการก่อตั้ง AIIB
คำถามที่เกิดขึ้นคือ รัฐบาลใหม่ของอเมริกาจะมองธนาคาร AIIB แห่งนี้แตกต่างไปหรือไม่?
กรรมการผู้จัดการใหญ่ AIIB จิน หลี่คุน กล่าวว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์น่าจะเปลี่ยนจุดยืนมาสนับสนุน และอาจจะร่วมเป็นสมาชิกของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งนี้ด้วย
เขากล่าวว่า หลังจากที่แคนาดาแสดงจุดยืนสนับสนุน AIIB คงจะยากที่จะไม่คิดว่าสหรัฐฯ เองก็อาจจะสนใจเป็นสมาชิก AIIB
อย่างไรก็ตาม อาจารย์ Lourdes Casanova ผู้อำนวยการสถาบัน Emerging Markets Institute ที่มหาวิทยาลัย Cornell ในสหรัฐฯ กล่าวว่า อเมริกาภายใต้รัฐบาลใหม่คงไม่สนใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งของ AIIB
นักวิชาการผู้นี้กล่าวว่า ที่ผ่านมาเห็นว่ารัฐบาลอเมริกันถอยมามุ่งความสนใจให้กับเรื่องภายในประเทศ และน่าจะลงทุนสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานภายในสหรัฐฯ เป็นหลัก
อาจารย์จากมหาวิทยาลัย Cornell ผู้นี้บอกว่า ท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์เป็นการเผชิญหน้ากับจีน และเม็กซิโก นอกจากนั้นการที่เขาวิจารณ์องค์กรต่างประเทศหลายแห่ง แสดงให้เห็นว่า คงเป็นเรื่องยากที่รัฐบาลสหรัฐฯ สมัยปัจจุบัน จะเข้าร่วมธนาคาร AIIB ที่จีนเป็นผู้ริเริ่ม
นักวิเคราะห์กล่าวว่า AIIB มีผลงานที่น่าพอใจในการปล่อยเงินกู้ เช่นในโครงการ TANAP (Trans-Anatolian Gas Pipeline) มูลค่า 600 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างท่อก๊าซธรรมชาติเชื่อมต่อประเทศอาเซอร์ไบจานกับยุโรป
นอกจากนั้นยังมีโครงการสร้างถนนตามแนวพรมแดนทาจิกิสถาน ยังไม่รวมถึงโครงการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ 300 ล้านดอลลาร์ ที่ AIIB ให้เงินกู้ปากีสถาน และท่าเรือในโอมานมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์
ในปีกว่าๆ ที่ผ่านมา AIIB ปล่อยเงินกู้ไปทั้งหมด 9 โครงการ มูลค่ารวม 1,700 ล้านดอลลาร์ แต่โครงการเหล่านั้นได้รับการศึกษาความเป็นไปได้มาก่อนหน้านี้โดยหน่วยงานต่างประเทศ เช่น ธนาคารโลก และ Asian Development Bank
ต่อไปจากนี้ AIIB จะต้องทำการศึกษาความเป็นไปได้เอง นักวิเคราะห์จึงคิดว่าการปล่อยเงินกู้สำหรับโครงการในอนาคต น่าจะมีสิ่งท้าทายหลายอย่างรออยู่
(รายงานโดย Saibal Dasgupta / เรียบเรียงโดย รัตพล อ่อนสนิท)
