คำว่า smartphone กำลังแทนที่โทรศัพท์มือถือแล้ว smartphone อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ได้หลายอย่าง แต่ผลกระทบของ smartphone ต่อผู้ใช้มีอะไรบ้าง
สมัยนี้ โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ที่แทบทุกคนจำเป็นจะต้องมี นอกจากจะใช้ในการติดต่อสื่อสารแล้ว มือถือยังกลายมาเป็นแหล่งข้อมูลและการบันเทิง และผู้ให้บริการ รวมทั้งธุรกิจต่างๆก็กำลังหาทางใช้ประโยชน์อุปกรณ์ชิ้นนี้ในทางต่างๆมากขึ้นอยู่ตลอดเวลา
ในอีกด้านหนึ่งของความสะดวกสำหรับการสื่อสารติดต่อ การค้นหาข้อมูล และการเข้าถึงความบันเทิงอย่างสะดวกทันใจเหล่านี้ คือค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ข้อมูลที่ทางการรัฐบาลสหรัฐเก็บมาแสดงให้เห็นว่าในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ค่าบริการโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะ smartphone เข้าไปเบียดบังค่าใช้จ่ายทางด้านอื่น เช่น การรับประทานอาหารนอกบ้าน ค่าเสื้อผ้า และค่าดูหนัง
แนวโน้มบ่งระบุด้วยว่า ค่าใช้จ่ายสำหรับบริการโทรศัพท์ประเภท smartphone จะเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะผู้ให้บริการเพิ่มอัตราความเร็วในข่ายงานเชื่อมต่อโทรศัพท์ที่คิดค่าบริการแพงขึ้น
ผลการสำรวจของ Pew Center ระบุว่า คนอเมริกันเกือบจะเก้าในสิบคน มีโทรศัพท์มือถือใช้ โดยเฉลี่ยแล้ว ค่าเครื่องโทรศัพท์ตก เครื่องละ $200 ส่วนค่าบริการนั้น เดือนละราวๆ $100 แต่สำหรับครอบครัวที่มี smartphone มากกว่าหนึ่งเครื่อง ค่าบริการอาจเพิ่มขึ้นไปมากกว่า $4,000 ต่อปี สูงกว่าค่าบริการเคเบิลทีวีและอินเทอร์เน็ตที่ใช้ในบ้านมาก
และแน่นอนที่บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือมีรายได้เพิ่มขึ้นมากจากการขายบริการ เช่น อีเมล และการเข้าใช้อินเตอร์เน็ต ตัวเลขที่นักวิเคราะห์ของ UBS AG เผยแพร่ออกมา แสดงให้เห็นว่า รายได้ของบริษัทเหล่านี้เท่ากับ 2 หมื่นสองพันล้านดอลล่าร์ เมื่อห้าปีที่แล้ว ปีที่แล้วเพิ่มขึ้นไปเป็น 5 หมื่นเก้าพันล้านดอลล่าร์ และ UBS ประมาณว่า รายได้ของบริษัทเหล่านี้ จะเพิ่มขึ้นไปอีกราวๆ ห้าหมื่นล้านดอลล่าร์ในช่วงสี่ปีข้างหน้า
จุดขายสำคัญ นอกไปจาก smartphone ที่ดึงดูดสายตา และใช้ได้อเนกประสงค์แล้ว ผู้ให้บริการบอกว่า คือ อัตราความเร็วกับการเข้าถึงข้อมูล ซึ่งยิ่งเข้าถึงมากเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายก็จะแพงมากขึ้นตามไปด้วย
คำถามที่ในที่สุดแล้ว ทุกคนคงจะต้องถามและพยายามตอบตนเองให้ได้ ก็คือ จะยอมแบกภาระค่าใช้จ่ายสำหรับ smartphone ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เทียบกับการประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านอื่นได้ถึงจุดไหน ก่อนที่เจ้าตัวต้องร้องว่า พอแล้ว!
สมัยนี้ โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ที่แทบทุกคนจำเป็นจะต้องมี นอกจากจะใช้ในการติดต่อสื่อสารแล้ว มือถือยังกลายมาเป็นแหล่งข้อมูลและการบันเทิง และผู้ให้บริการ รวมทั้งธุรกิจต่างๆก็กำลังหาทางใช้ประโยชน์อุปกรณ์ชิ้นนี้ในทางต่างๆมากขึ้นอยู่ตลอดเวลา
ในอีกด้านหนึ่งของความสะดวกสำหรับการสื่อสารติดต่อ การค้นหาข้อมูล และการเข้าถึงความบันเทิงอย่างสะดวกทันใจเหล่านี้ คือค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ข้อมูลที่ทางการรัฐบาลสหรัฐเก็บมาแสดงให้เห็นว่าในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ค่าบริการโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะ smartphone เข้าไปเบียดบังค่าใช้จ่ายทางด้านอื่น เช่น การรับประทานอาหารนอกบ้าน ค่าเสื้อผ้า และค่าดูหนัง
แนวโน้มบ่งระบุด้วยว่า ค่าใช้จ่ายสำหรับบริการโทรศัพท์ประเภท smartphone จะเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะผู้ให้บริการเพิ่มอัตราความเร็วในข่ายงานเชื่อมต่อโทรศัพท์ที่คิดค่าบริการแพงขึ้น
ผลการสำรวจของ Pew Center ระบุว่า คนอเมริกันเกือบจะเก้าในสิบคน มีโทรศัพท์มือถือใช้ โดยเฉลี่ยแล้ว ค่าเครื่องโทรศัพท์ตก เครื่องละ $200 ส่วนค่าบริการนั้น เดือนละราวๆ $100 แต่สำหรับครอบครัวที่มี smartphone มากกว่าหนึ่งเครื่อง ค่าบริการอาจเพิ่มขึ้นไปมากกว่า $4,000 ต่อปี สูงกว่าค่าบริการเคเบิลทีวีและอินเทอร์เน็ตที่ใช้ในบ้านมาก
และแน่นอนที่บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือมีรายได้เพิ่มขึ้นมากจากการขายบริการ เช่น อีเมล และการเข้าใช้อินเตอร์เน็ต ตัวเลขที่นักวิเคราะห์ของ UBS AG เผยแพร่ออกมา แสดงให้เห็นว่า รายได้ของบริษัทเหล่านี้เท่ากับ 2 หมื่นสองพันล้านดอลล่าร์ เมื่อห้าปีที่แล้ว ปีที่แล้วเพิ่มขึ้นไปเป็น 5 หมื่นเก้าพันล้านดอลล่าร์ และ UBS ประมาณว่า รายได้ของบริษัทเหล่านี้ จะเพิ่มขึ้นไปอีกราวๆ ห้าหมื่นล้านดอลล่าร์ในช่วงสี่ปีข้างหน้า
จุดขายสำคัญ นอกไปจาก smartphone ที่ดึงดูดสายตา และใช้ได้อเนกประสงค์แล้ว ผู้ให้บริการบอกว่า คือ อัตราความเร็วกับการเข้าถึงข้อมูล ซึ่งยิ่งเข้าถึงมากเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายก็จะแพงมากขึ้นตามไปด้วย
คำถามที่ในที่สุดแล้ว ทุกคนคงจะต้องถามและพยายามตอบตนเองให้ได้ ก็คือ จะยอมแบกภาระค่าใช้จ่ายสำหรับ smartphone ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เทียบกับการประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านอื่นได้ถึงจุดไหน ก่อนที่เจ้าตัวต้องร้องว่า พอแล้ว!