ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ประชาชนแคนาดา จับตารอดูรัฐบาลตัดสินใจนโยบายเปิดพรมแดนกับสหรัฐฯ


FILE - U.S. Customs officers speaks with people in a car beside a sign saying that the U.S. border is closed at the U.S./Canada border in Lansdowne, Ontario, March 22, 2020.
FILE - U.S. Customs officers speaks with people in a car beside a sign saying that the U.S. border is closed at the U.S./Canada border in Lansdowne, Ontario, March 22, 2020.

ประชาชนในแคนาดากำลังจับตาเฝ้ารอการตัดสินใจของรัฐบาลของตนว่า ควรจะเริ่มกลับมาเป็นพรมแดนกับสหรัฐฯ อีกครั้งได้หรือไม่ และเมื่อใด หลังจากด่านข้ามแดนระหว่างทั้งคู่ถูกระงับไป และให้การยกเว้นสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นเท่านั้นที่จะข้ามไป-มาได้ ตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคมของปีที่แล้ว เนื่องจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19

บิลล์ แบลร์ รัฐมนตรีความปลอดภัยสาธารณะและการเตรียมการฉุกเฉินของแคนาดา ทวีตข้อความออกมาในวันศุกร์ว่า มาตรการปิดพรมแดนแคนา-สหรัฐฯ จะยืดการบังคับใช้ต่อไปอีก 1 เดือน พร้อมระบุว่า รัฐบาลกรุงออตตาวา “มีแผนที่จะฉีดวัคซีน(โควิด-19)” ให้กับชาวแคนาดา ผู้ที่มีสถานะพักอาศัยและทำงานอย่างถาวร รวมทั้งผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาแคนาดา ให้ครบถ้วน” โดยกล่าวว่ารายละเอียดต่างๆ จะมีออกมาในวันจันทร์

อนึ่ง การดำเนินมาตรการปิดพรมแดนระหว่างสองประเทศนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นพรมแดนที่ไม่มีการตั้งระบบป้องกันใดๆ ที่ยาวที่สุดในโลก มีการทบทวนใหม่ทุกๆ เดือนตั้งแต่เริ่มบังคับใช้มาสำหรับจุดผ่านแดนถาวรแคนาดา-สหรัฐฯ ที่มีอยู่ทั้งหมด 117 จุด

ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 นั้น มีประชาชนราว 400,000 คนโดยเฉลี่ย ที่เดินทางผ่านพรมแดนสหรัฐฯ-แคนาดาในแต่ละวัน ขณะที่ มูลค่าการค้าข้ามแดนรายวันระหว่างทั้งสองอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์

Canada's Prime Minister Justin Trudeau arrives for an EU-Canada summit at the European Council building in Brussels, Monday, June 14, 2021. (Stephanie Lecocq, Pool via AP)
Canada's Prime Minister Justin Trudeau arrives for an EU-Canada summit at the European Council building in Brussels, Monday, June 14, 2021. (Stephanie Lecocq, Pool via AP)

นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด แห่งแคนาดา ได้ส่งสัญญาณออกมาว่าเตรียมเปิดพรมแดนจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยจะยังมีการบังคับใช้มาตรการควบคุมบางอย่างควบคู่ไปด้วย

เคลลี่ ลี ศาสตราจารย์ด้านสาธารณสุขโลก จากมหาวิทยาลัย ไซมอน เฟรเซอร์ ในนครแวนคูเวอร์ คาดว่า รัฐบาลน่าจะปรับเปลี่ยนการอนุญาตให้มีการเดินทางแบบที่ไม่มีความจำเป็นออกเป็น 4 กลุ่ม โดยอ้างอิงจากสถานะการฉีดวัคซีน อันได้แก่ ผู้ที่ได้รับการฉีดครบแล้ว ผู้ที่ได้รับการฉีด 1 จาก 2 เข็ม ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีด และผู้ที่เคยป่วยจากการติดเชื้อโคโรนาไวรัส

ศ.ลี กล่าวว่า การดำเนินการอนุญาตผู้เดินทางดังกล่าวจะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ ควรต้องมีการออกเอกสารการเดินทางประเภท Vaccine Passport ซึ่งบางฝ่ายอาจมองว่าเป็นภาระหรือไม่ก็ไม่ควรนำมาใช้เลย

ขณะเดียวกัน โกลดี ไฮเดอร์ ประธานสภาธุรกิจแคนาดา ให้ความเห็นว่า ขณะนี้ มีประชาชนที่ได้รับวัคซีนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ฝ่ายรัฐบาลน่าจะถูกกดดันอย่างมากให้ยอมมีการเดินทางข้ามแดนได้แล้ว แต่ตนเองไม่ชอบการใช้คำว่า Vaccine Passport เพราะคำนี้ฟังดูมีความหมายแฝงอยู่ในหลายนัย และอาจทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติได้

ข้อมูลจากรัฐบาลแคนาดา ณ วันที่ 11 มิถุนายน ระบุว่า มีประชากรวัยผู้ใหญ่กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 เข็ม ขณะที่ กว่า 9 เปอร์เซ็นต์ของประชากรกลุ่มเดียวกันนี้ได้รับวัคซีนครบแล้ว

XS
SM
MD
LG