ทำเนียบขาวเปิดเผยแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในวันพุธ หลังจากที่ล่าช้ามานานเพราะสงครามในยูเครน โดยมีเนื้อหาเรื่องการจำกัดการขยายอิทธิพลของจีนในขณะที่เน้นย้ำความสำคัญของการทำงานร่วมกับชาติพันธมิตรเพื่อต่อสู้กับความท้าทายต่าง ๆ ต่อโลกประชาธิปไตย
ทั้งนี้ รัฐบาลอเมริกันมีกำหนดส่งแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่นี้ให้รัฐสภาสหรัฐฯ ตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
เอกสารความยาว 48 หน้ามิได้แสดงถึงการปรับเปลี่ยนด้านนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน มากนัก แต่ได้เน้นถึงมุมมองของทำเนียบขาวว่า ความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ คือ กุญแจสำคัญในการเอาชนะภัยคุกคามต่าง ๆ ต่อโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก และการขยายตัวของระบอบเผด็จการ
แผนฉบับนี้ระบุว่า ตั้งแต่ช่วงก่อนที่รัสเซียจะรุกรานยูเครน จีนถือเป็นประเทศที่ท้าทายต่อระเบียบโลกมากที่สุด และว่า สหรัฐฯ ต้องเอาชนะจีนให้ได้ในการแข่งขันทางเศรษฐกิจหากต้องการรักษาอิทธิพลของอเมริกาทั่วโลกเอาไว้
ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ เจค ซัลลิแวน กล่าวในวันพุธว่า จีนมีความตั้งใจและมีศักยภาพมากขึ้นเรื่อย ๆที่จะสามารถปรับเปลี่ยนระเบียบโลกให้เอื้อต่อผลประโยชน์ของจีนได้ พร้อมให้ความเห็นว่า สหรัฐฯ ต้องจัดการความสัมพันธ์กับจีนอย่างเหมาะสม พร้อมไปกับการรับมือความท้าทายระหว่างประเทศที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทั้งในด้านสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงทางอาหาร โรคติดต่อ การก่อการร้าย พลังงาน และปัญหาเงินเฟ้อ
ซัลลิแวน ยังสะท้อนถึงความเห็นของประธานาธิบดีไบเดนที่กล่าวไว้เมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า สหรัฐฯ จะทบทวนความสัมพันธ์กับซาอุดิอาระเบียเสียใหม่ หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน โอเปกพลัส (OPEC+) ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลงท่ามกลางการคัดค้านของสหรัฐฯ
