อิสราเอลส่งกองกำลังรถถังเข้าไปที่เมืองจาบาลิยาทางภาคเหนือของกาซ่าในวันอาทิตย์ หลังจากโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดินอย่างหนักตลอดคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 19 คน และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกาซ่า
เมืองจาบาลิยา คือที่ตั้งของค่ายผู้ลี้ภัยขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของกาซ่า มีผู้อาศัยอยู่มากกว่า 100,000 คน ส่วนใหญ่คือลูกหลานของชาวปาเลสไตน์ที่ถูกขับไล่ออกจากพื้นที่เดิมของพวกเขาในช่วงสงครามอาหรับ-อิสราเอล เมื่อปี 1948 ก่อนที่จะมีการตั้งรัฐอิสราเอลในเวลาต่อมา
เมื่อคืนวันเสาร์ กองทัพอิสราเอลระบุว่า ทหารที่ปฏิบัติการอยู่ในเมืองจาบาลิยา ได้พยายามป้องกันไม่ให้กลุ่มฮามาสใช้เมืองแห่งนี้เป็นฐานที่มั่นในการเสริมกำลังทัพใหม่
พลเรือตรีแดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล แถลงข่าวว่า "เราสามารถระบุได้ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า กลุ่มฮามาสใช้เมืองจาบาลิยาเป็นฐานที่มั่นในการสั่งสมกำลังรบขึ้นใหม่ เราจึงปฏิบัติการที่นั่นเพื่อกำจัดความพยายามดังกล่าว"
กองทัพอิสราเอลส่งรถถังกลับเข้าไปที่เขตอัล-เซตูน และอัล-ซาบรา และมีรายงานการโจมตีอย่างหนัก สร้างความเสียหายให้กับอาคารสูงหลายแห่ง
พลเรือตรีฮาการี กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลที่ปฏิบัติการในเขตเซตูนสามารถสังหารนักรบกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ได้ 30 คน
ชาวเมืองจาบาลิยาผู้หนึ่งกล่าวกับรอยเตอร์ว่า "มีการโจมตีไม่หยุดทั้งทางอากาศและภาคพื้นดินตั้งแต่เมื่อวานนี้ พวกเขาโจมตีทุกหนแห่ง รวมทั้งใกล้กับโรงเรียนแห่งหนึ่งที่เป็นแหล่งหลบภัยของผู้ที่สูญเสียบ้านของพวกเขา" และว่า การบุกโจมตีครั้งนี้ทำให้หลายครอบครัวต้องอพยพออกไป
ด้านกองกำลังของฮามาสและกลุ่มนักรบอิสลาม กล่าวว่า พวกเขาได้ใช้จรวดต่อต้านรถถังและปืนใหญ่โจมตีใส่ทหารอิสราเอลในหลายพื้นที่ในกาซ่า รวมทั้งในเมืองราฟาห์ทางใต้ของกาซ่าซึ่งถือเป็นสถานที่หลบภัยแห่งสุดท้ายของชาวปาเลสไตน์นับล้านคนในกาซ่า
ในวันอาทิตย์ คาดว่ามีชาวปาเลสไตน์นับพันครอบครัวเดินทางออกจากเมืองราฟาห์ท่ามกลางแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นของกองทัพอิสราเอลที่ประกาศว่าจะใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินในเมืองชายแดนติดกับอียิปต์แห่งนี้
สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสเริ่มขึ้นเมื่อฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารประชาชนราว 1,200 คนและจับตัวประกันไปมากกว่า 250 คน นำไปสู่การโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดินของอิสราเอลเข้าใส่ฉนวนกาซ่าที่คาดว่าทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 35,000 คน จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุขของกาซ่า
- ที่มา: รอยเตอร์
