ลิ้งค์เชื่อมต่อ

บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่เข้าไปขุดเจาะน้ำมันในขั้วโลกเหนือขณะที่นักสิ่งแวดล้อมเตือนถึงผลกระทบที่จะตามมา


บรรดานักสิ่งแวดล้อมกล่าวว่าปัญหาน้ำมันรั่วไหลลงในทะเลอาร์กติกจะสร้างความเสียหายใหญ่หลวง

เมื่อฤดูหนาวปีที่แล้ว ในขั้วโลกเหนือ เรือขนส่งน้ำมันรัสเซีย Renda สามารถเดินเรือผ่านเข้าไปจนถึงท่าเรือ Port of Nome จุดที่ห่างไกลในอาลัสก้าได้สำเร็จ

ก่อนหน้านี้ไม่นาน การเดินเรือในเขตนี้ในช่วงเดือนธันวาคมและมกราคม มักทำไม่ได้ แต่สภาวะอากาศโลกที่อุ่นขึ้นทำให้แผ่นน้ำแข็งบางลง มีเรือจำนวนมากขึ้นที่เดินทางฝ่าน้ำแข็งผ่านเส้นทางนี้ไปได้ตลอดทั้งปี เรือส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมเสาะหาแหล่งน้ำมันและแหล่งแก็ส สำนักงาน U.S. Geological Survey ประมาณว่ามีน้ำมัน 26,000 ล้านบาร์เรลอยู่ใต้ท้องทะเลอาร์กติกในส่วนที่เป็นเขตของสหรัฐอเมริกา

บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ต่างๆ รวมทั้งบริษัท Rosneft ที่รัฐบาลรัสเซียเป็นเจ้าของ กับบริษัืท Royal Dutch Shell ได้ลงทุนไปแล้วหลายพันล้านดอลล่าร์สหรัฐเพื่อเสาะหาแหล่งน้ำมันในขั้วโลกเหนือ

แต่คุณ Glada Lahn นักวิเคราะห์ชาวอังกฤษแห่งสถาบันด้านนโยบาย Chatham Houseในลอนดอน กล่าวว่าสภาวะอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลงไปสร้างทั้งปัญหาและโอกาส

คุณ Glada Lahn กล่าวว่าเมื่ออุณหภูมิอุ่นขึ้นในขั้วโลกเหนือ แผ่นน้ำเเข็งละลายและแตกหักออกจากกัน กลายเป็นก้อนน้ำแข็ง Iceburgs อยู่ในทะเลและขัดขวางการทำงานเสาะหาแหล่งน้ำมันและเเก็ส ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่เป็นผลสืบเนื่องจากการละลายของน้ำแข็งในบริเวณชายฝั่งคือเกิดการกัดเซาะของหน้าดินบริเวณเเนวชายฝั่งจากคลื่นทะเลในช่วงพายุรุนแรง ทำให้ระบบโครงสร้างขั้นพื้นฐานเสียหายตามมา

ภาพวิดิทัศน์ของบริษัทเชลล์ที่นำขึ้นเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต เป็นภาพที่แสดงให้เห็นงานขุดเจาะหาน้ำมัน
ในขั้วโลกเหนือ ในขณะนี้ ทางบริษัทเชลล์ได้ยกเลิกงานเสาะหาแหล่งน้ำมันไปจนกว่าเสร็จสิ้นฤดูหนาว โดยให้เหตุผลว่าอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยชิ้นสำคัญล้มเหลวในการทำงาน

คุณ Glada Lahn นักวิเคราะห์กล่าวว่าความปลอดภัยเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในการขุดเจาะหาแหล่งน้ำมันในขั้วโลกเหนือ

นักวิเคราะห์บอกว่างานขุดเจาะมีอุปสรรคมากในสหรัฐและแคนาดาเนื่องจากสาธารณชนตรวจสอบแผนแก้ปัญหาของบริษัทอย่างเข้มแข็งว่าทางบริษัทมีแผนรับมืออย่างไรหากเกิดการรั่วไหลของน้ำมันในทะเลระหว่างการขุดเจาะ

หลังจากอุปสรรคทางการเมืองเป็นตัวต้นเหตุให้ข้อตกลงล้มเหลว มีการรื้อฟื้นแผนการลงทุนร่วมกันระหว่างบริษัท Rosneft ของรัฐบาลรัสเซียกับบริษัท BP ในการร่วมกันขุดเจาะน้ำมันในขั้วโลกเหนือแล้ว

บริษัทน้ำมันใหญ่ๆหลายบริษัทยังไม่กล้าลงทุน CEO ของบริษัทโททอลแห่งฝรั่งเศสชี้ว่าการรั่วของน้ำมันในการขุดเจาะจะทำให้ภาพพจน์ของบริษัทเสียหาย ไม่คุ้มกัน

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นักกิจกรรมจากกลุ่มกรีนพีสได้ล่ามโซ่ตนเองติดกับเรือขุดเจาะน้ำมันรัสเซียที่ทำงานให้กับบริษัท Gazprom ในทะเล Barents

Kumi Naido ผู้อำนวยการบริหารแห่งกลุ่มกรีนพีสกล่าวว่านี่เป็นความพยายามแบบสันติของกรีนพีสในการกระตุ้นให้บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่าง Gazprom เชลล์และบริษัทอื่นๆให้พิจารณายกเลิกแผนการขุดเจาะน้ำมันในขั้วโลกเหนือ ให้มีความเข้าใจถึงผลกระทบรุนแรงที่จะตามมาต่ออนาคตของคนรุ่นลูกรุ่นหลาน

นักวิทยาศาสตร์ต่างเตือนว่าการรั่วไหลของน้ำมันระหว่างการขุดเจาะในทะเลขั้วโลกเหนือจะสร้างปัญหาใหญ่ที่ต้องใช้เวลาแก้นานหลายสิบปีเพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็น แม้กระนั้นบริษัทน้ำมันใหญ่ๆอย่างเชลล์ต่างชี้ว่าภายในไม่กี่สิบปีข้่างหน้า มีความจำเป็นมากที่ต้องเสาะหาแหล่งน้ำมันใหม่ๆโดยเฉพาะในขั้วโลกเหนือ

ส่วนนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมบอกว่าสภาพสิ่งแวดล้อมชั้นดีเยี่ยมของขั้วโลกเหนือไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่จะตามมาจากการขุดเจาะน้ำมัน
XS
SM
MD
LG