ลิ้งค์เชื่อมต่อ

เหลียวดู 2020 เพื่อประเมินทิศทางดีเบทเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ 2024


เวทีดีเบตผู้ท้าชิงเก้าอี้ปธน.สหรัฐฯ ปี 2024 รอบแรกที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เป็นเจ้าภาพจัดที่นครแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย
เวทีดีเบตผู้ท้าชิงเก้าอี้ปธน.สหรัฐฯ ปี 2024 รอบแรกที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เป็นเจ้าภาพจัดที่นครแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย

การดีเบทรอบแรกของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จัดขึ้นที่นครแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ในวันพฤหัสบดี ไม่ใช่การประจันหน้าครั้งแรกระหว่าง โจ ไบเดน และ โดนัลด์ ทรัมป์ และชาวอเมริกันก็ยังจำได้ดีว่า เมื่อทั้งคู่ขึ้นเวทีโต้อภิปรายกันเมื่อวันที่ 29 กันยายน ปี 2020 บรรยากาศเป็นอย่างไรบ้าง

ในครั้งนั้น ทรัมป์ ซึ่งกำลังจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกและ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต โต้คารมกันอย่างเมามันเป็นระยะจนผู้ชมฟังแทบไม่ออกว่าใครพูดอะไรบ้าง

ย้อนมอง 2020 ประเมินทิศทางดีเบท เลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ 2024
please wait

No media source currently available

0:00 0:06:55 0:00

โดยมีบางช่วงที่ทรัมป์แสดงจุดยืนและความมั่นใจของตนว่า ทำหน้าที่ผู้นำประเทศได้ดี และกล่าวว่า ได้ทำสิ่งต่าง ๆ มากมายในช่วง 47 เดือนในทำเนียบขาว มากกว่าระยะเวลา 47 ปีของอาชีพนักการเมืองของไบเดนเสียอีก ขณะที่ ไบเดน มุ่งเน้นการนำเสนอนโยบายของตน

แต่ตลอดเวลา 90 นาทีของการดีเบทครั้งนั้น สิ่งที่ผู้ชมหลายคนจดจำได้ก็คือ ความวุ่นวายบนเวทีและการพูดแทรกขัดกันระหว่างสองผู้ท้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี

จน คริส วอลเลซ ผู้ดำเนินรายการครั้งนั้นต้องออกปากให้ทั้งสองคนหยุดทะเลากันได้แล้ว

แฟ้มภาพ -- อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ (ซ้าย) และ โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงตำแหน่งปธน.ในเวลานั้นจากพรรคเดโมแครต (ขวา) เข้าร่วมการดีเบตครั้งแรก ที่นครคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ เมื่อ 29 ก.ย. 2563
แฟ้มภาพ -- อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ (ซ้าย) และ โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงตำแหน่งปธน.ในเวลานั้นจากพรรคเดโมแครต (ขวา) เข้าร่วมการดีเบตครั้งแรก ที่นครคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ เมื่อ 29 ก.ย. 2563

ผู้สื่อข่าว วีโอเอ ได้ออกไปสอบถามประชาชนตามท้องถนนเกี่ยวกับสิ่งที่จำได้จากการดีเบทครั้งก่อน และส่วนใหญ่ของคำตอบที่ได้ก็สะท้อนมุมมองที่ว่า

ไฮดี ฮาร์เดน ผู้สนับสนุน โจ ไบเดน
ไฮดี ฮาร์เดน ผู้สนับสนุน โจ ไบเดน
เจเรมี ลอริน ผู้สนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์
เจเรมี ลอริน ผู้สนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์

ไฮดี ฮาร์เดน ซึ่งสนับสนุนไบเดน บอกว่า มันนานเสียจนเธอแทบจำไม่ได้แล้ว ขณะที่ เจเรมี ลอริน ซึ่งสนับสนุนทรัมป์ จำได้ว่า ทรัมป์คือผู้ที่โต้อภิปรายได้เหนือกว่า ส่วน อดัม เบย์ลี ผู้สนับสนุนไบเดน ให้ความเห็นว่า “ดูออกเลยว่า ทรัมป์พยายามใช้ลูกเล่นแบบเด็ก ๆ คอยขัดอยู่ตลอดเวลา และไบเดนก็ไม่ยอมทนกับพฤติกรรมเช่นนั้นเลย”

สำหรับการดีเบทครั้งนี้ สถานการณ์เหล่านั้นน่าจะไม่เกิดขึ้นซ้ำรอยเก่าอีกภายใต้กฎเกณฑ์ใหม่ โดยเฉพาะเมื่อผู้ดำเนินรายการปิดไมโครโฟนของผู้ที่ไม่ได้มีคราวจะต้องพูดตอบใด ๆ

และเงื่อนไขดังกล่าวก็ได้รับการตอบรับเชิงบวก อย่างน้อยจาก เชต อีเดิลแมน ที่สนับสนุนไบเดน ซึ่งบอกว่า ตนเองหวังเหลือเกินว่า ผู้จัดงานจะไม่ต้องออกกฎนี้ออกมา แต่เมื่อดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นในคราวที่แล้ว นี่ถือเป็นนโยบายและมาตรการที่ดี

ในส่วนของสาระเนื้อหาของการดีเบทครั้งที่แล้ว ประเด็นหนึ่งที่หลายคนจำได้ก็คือ เมื่อผู้ดำเนินรายการขอให้อดีตปธน.ทรัมป์ประณามกลุ่มชาตินิยมเชิดชูคนผิวชาว (white supremacist) แต่คำตอบที่ออกจากปากกลับเป็นสิ่งที่นักวิเคราะห์มองว่าเป็นเหมือนคำเตือนภัยมากกว่า

นั่นเป็นเพราะทรัมป์ไม่ได้ตำหนิกลุ่มดังกล่าว และพูดเพียงว่า “กลุ่มพราวด์ บอยส์นะหรือ จงหยุดและรอก่อน” เท่านั้น

อีกประเด็นหนึ่งคือ เมื่อทั้งสองผู้ท้าชิงได้รับคำถามว่า จะยอมรับผลการเลือกตั้งที่ออกมาหรือไม่

ในครั้งนั้น ทรัมป์กล่าวว่า “ถ้ามันเป็นการเลือกตั้งที่ยุติธรรม ผมก็เห็นด้วย 100% แต่ถ้าผมเห็นบัตรลงคะแนนนับหมื่นใบที่มีตุกติก ผมก็จะไม่สามารถยอมรับเรื่องนั้นได้”

ขณะที่ ไบเดน กล่าวว่า ตนจะยอมรับผลเลือกตั้ง และว่า “เขาก็จะยอมรับด้วย รู้ไหมว่าทำไม เพราะว่า เมื่อมีการประกาศผู้ชนะ หลังมีการนับบัตรเลือกตั้งครบหมดแล้ว มีการนับคะแนนหมดแล้ว นั่นก็หมายถึงการสิ้นสุด(ของกระบวนการเลือกตั้ง)”

แต่เมื่อผลออกมาว่า ทรัมป์คือ ผู้พ่ายแพ้ กลุ่มผู้สนับสนุนของอดีตประธานาธิบดีรายนี้ก็พากันบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม เพื่อหวังพลิกผลการเลือกตั้ง

ในการดีเบทครั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ไม่ว่าจะออกมาในรูปใด ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในสหรัฐฯ ที่ตัดสินใจแล้วก็ไม่น่าจะเปลี่ยนใจอีก

ปีเตอร์ ลอจ ผู้อำนวยการวิทยาลัยกิจการสาธารณะและสื่อ ที่มหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน ให้ความเห็นว่า กลุ่มผู้สนับสนุน โจ ไบเดน จะไม่สนใจเวลาที่ไบเดนพูดผิดหรือให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง เพราะว่า “นั่นเป็นโจ ไบเดน ตัวจริง” ที่เป็นอย่างนั้นมาตลอด ขณะที่ ผู้สนับสนุนทรัมป์ก็จะไม่ต่างกันมากและจะพูดประมาณว่า “ก็นั่นคือ ทรัมป์ ไง เป็นคนที่คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ... ฟังเขาอย่างจริงจัง แต่ไม่ทุกตัวอักษร”

สำหรับการดีเบทรอบที่ 2 นั้น มีกำหนดจัดขึ้นในเดือนกันยายนแล้ว แต่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่อย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่จะเป็นไปในบทเวทีดีเบทในค่ำคืนวันพฤหัสบดีนี้

  • ที่มา: วีโอเอ

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG