ประเด็นโต้แย้ง เรื่องการนำผู้ก่อการร้ายขึ้นศาลดำเนินคดี ในอเมริกา

ประเด็นหนึ่ง ที่กำลังเป็นที่โต้แย้งกันมากในอเมริกา เวลานี้ คือเรื่องการนำผู้ก่อการร้ายขึ้นศาลดำเนินคดี รัฐบาลชุดประธานาธิบดีโอบาม่ากล่าวไว้ว่า ต้องการจะดำเนินคดีกับคนเหล่านี้ ในศาลอาญา แต่ฝ่ายที่คัดค้าน ต้องการให้นำคนเหล่านี้ดำเนินคดีในศาลทหาร

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ แถลงไว้เมื่อไม่นานมานี้ ว่าจะนำตัวนาย Khalid Sheikh Mohammed ซึ่งประกาศตนไว้ว่า เป็นผู้วางแผนการก่อการร้าย โจมตีสหรัฐเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 ขึ้นศาลอาญาเพื่อดำเนินคดี และทางกระทรวงก็ได้ตั้งข้อหาทางอาญา ต่อนาย Umar Farouk Abdulmutallab ซึ่งพยายามจะจุดชนวนระเบิดเครื่องบินในสหรัฐ เมื่อวันคริสต์มาสแล้วด้วย

ทั้งสองเหตุการณ์นี้ ก่อให้เกิดการโต้แย้งในประเด็นที่สำคัญ ในการพิจารณามาตรการตอบโต้การก่อการร้ายที่ว่า การก่อการร้ายนั้น เป็นการกระทำที่เป็นอาชญากรรม หรือเป็นการกระทำสงคราม

คำตอบต่อคำถามข้างต้น เกี่ยวโยงกับการดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำผิด

ประธานาธิบดีโอบาม่ากล่าวไว้ ในการตอบคำถามทาง Youtube เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ว่า สหรัฐกำลังทำสงครามกับกลุ่มก่อการร้าย Al-Qaida และพันธมิตรของกลุ่มที่ว่านี้ ซึ่งผุดขึ้นทั่วโลก และซึ่งจะทำร้ายสหรัฐ พันธมิตรของสหรัฐ ฐานทัพ และสถานทูตของสหรัฐทั่วโลก รวมทั้งการโจมตีผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะมีพื้นภูมิ หรือนับถือศาสนาใด

วุฒิสมาชิก Christopher Bond จากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า เป็นการทำสงคราม ที่ที่บุคคลที่มีความคิดเห็นรุนแรง ประกาศต่ออเมริกาและตะวันตก วุฒิสมาชิกผู้นี้ อยู่ในฝ่ายค้านที่ไม่ต้องการให้รัฐบาล นำตัวผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ขึ้นศาลอาญา ซึ่งจะเปิดโอกาสให้คนเหล่านี้ มีสิทธิต่างๆ มากมายทางกฎหมาย ฝ่ายนี้กำลังมีเสียงสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น

ส่วนนักวิเคราะห์ Michael Swetnam แห่ง Potomac Institute of Policy Studies ให้ความเห็นว่า แม้จะเรียกการก่อการร้ายว่า เป็นการกระทำผิดทางอาญา รัฐบาลก็ยังสามารถใช้อำนาจยามสงครามได้

แต่นาย Charles Allenรองรัฐมนตรี กระทรวงการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ ให้ความเห็นว่า ควรจะใช้เครื่องมือทุกชนิด ที่มีในการตอบโต้การก่อการร้าย ไม่ว่าจะเป็นการทูต การบังคับใช้กฎหมาย การข่าวกรอง และการทหาร

แต่นักการทูตจากสหภาพยุโรป นาย Angelos Pangratis กล่าวว่า จะนำคำจำกัดความ ตามกฎหมายของสงคราม มาใช้กับการก่อการร้ายไม่ได้

นักการทูตจากยุโรปผู้นี้ให้ความเห็นว่า การตอบโต้การก่อการร้าย มีความสำคัญเป็นอันดับแรก ในแง่ของการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ให้กับประชาชน แต่การกระทำเช่นนั้น จะต้องอยู่ภายในกรอบของ และดำเนินการตามหลักการ ของกฎหมายระหว่างประเทศ

นักวิเคราะห์ Michael Swetnam ตอบโต้ประเด็นนี้ไว้ว่า กฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะบทบัญญัติ ที่ไม่สนับสนุนการดำเนินคดีกับผู้ก่อการร้าย ในฐานะนักรบของศัตรู นั้น เป็นกฎหมายเก่าโบราณและควรมีการแก้ไข

คำสุดท้ายในการโต้แย้งกันในเรื่องนี้ มาจากประธานาธิบดีโอบาม่า ซึ่งกล่าวไว้ว่า การทำสงครามต่อต้านพวก Al-Qaida นั้นเป็นสงครามทางความคิดด้วย และว่า สหรัฐจะต้องมีความพยายามมากขึ้น ในการร่วมมือทำงานกับชาวมุสลิม ซึ่งส่วนใหญ่ปฏิเสธความรุนแรง