ถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานสำคัญ ที่ใช้กันทั่วโลกมาเป็นเวลายาวนานแล้ว ในขณะที่อุตสาหกรรมถ่านหิน กับบรรดานักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่างก็พยายามถกเถียงกัน เรื่องข้อดีข้อเสียของพลังงานถ่านหินมานานเช่นกัน
ปัจจุบัน 50% ของไฟฟ้าที่ใช้กันทั่วสหรัฐนั้น มาจากโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งปัญหาที่ตามมาก็คือมลพิษจากถ่านหิน อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ปริมาณมลพิษจากถ่านหินในอเมริกาลดลงถึง 77% อันเป็นผลมาจากกฎหมายควบคุมมลพิษทางอากาศเมื่อปี 1970 และแม้รัฐบาลอเมริกันจะพยายามอย่างยิ่งที่จะลดมลพิษดังกล่าว แต่เมื่อไม่นานมานี้ ทางอุตสาหกรรมถ่านหินก็เดินหน้าประชาสัมพันธ์ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนเชื่อมั่นในพลังงานถ่านหินสะอาดซึ่งว่ากันว่า เป็นพลังงานแห่งอนาคตของอเมริกา
คุณโจ ลูคัส จากสมาพันธ์พลังงานไฟฟ้า จากถ่านหินสะอาดแห่งอเมริกา ผู้อยู่เบื้องหลังโฆษณาชิ้นนี้ กล่าวว่าการผลิตพลังงานจากถ่านหินสะอาดนั้น เป็นศิลปะในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เพื่อลดการปล่อยมลพิษและเพิ่มประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าถ่านหิน และในอนาคตจะมีเทคโนโลยีที่สามารถกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุของปรากฎการณ์เรือนกระจกไว้ได้อีกด้วย แต่ในขณะที่ปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีดังกล่าว แนวคิดเรื่องถ่านหินสะอาดจึงถูกบรรดานักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโจมตีอย่างหนัก
โฆษณาตอบโต้ของกลุ่มต่อต้านถ่านหินสะอาดชิ้นนี้บอกว่า พลังงานถ่านหินสะอาดนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงการใช้ประโยชน์จากคำว่า "สะอาด" เพื่อให้ดูเหมือนเป็นพลังงานที่สะอาดที่สุดเท่านั้น นอกจากนี้ คุณ Brian Hardwick ผู้จัดทำโฆษณาชิ้นนี้ยังบอกด้วยว่า ทุกวันนี้ยังไม่มีถ่านหินสะอาดเกิดขึ้น ในโลกแห่งความเป็นจริง
นอกจากไม่มีถ่านหินสะอาดแล้ว คุณ Hardwick ยังบอกด้วยนะครับ ว่าไม่มีโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งไหน ที่กักเก็บมลพิษจากคาร์บอนอย่างเป็นจริงเป็นจัง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์ เพื่อเปิดเผยความจริง และตอบโต้แผนการตลาดของอุตสาหกรรมถ่านหิน และเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ตรึกตรองว่า จริงๆ แล้วพลังงานจากถ่านหินนั้น สะอาดจริงหรือเปล่า
ไม่ว่าจะสะอาดหรือสกปรก แต่ปัจจุบันสหรัฐมีถ่านหินจำนวนมาก และราคาถูกกว่าพลังงานชนิดอื่น จนนักวิเคราะห์มองว่าอเมริกา ยังต้องพึ่งพาพลังงานจากถ่านหินไปอีกนานทีเดียว เช่นเดียวกับมุมมองของผู้นำประเทศ
ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า เคยกล่าวไว้ ระหว่างการรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว ว่าอเมริกาจำเป็นต้องหาวิธีผลิตพลังงานจากถ่านหินสะอาดให้ได้ด้วยการแยกสารคาร์บอนออกจากถ่านหิน และว่าเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดจะช่วยให้อเมริกาไม่ต้องพึ่งพาพลังงานจากต่างชาติ ซึ่งหลังจากเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐแล้ว ประธานาธิบดีโอบาม่าก็แสดงให้เห็นว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ ด้วยการให้เงินอุดหนุนในการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีถ่านหินละอาดถึง 3,400 ล้านดอลล่าร์ อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีดังกล่าว ยังเป็นเรื่องของอนาคตที่คงจะไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ หลายคนจึงมองว่า คำว่าถ่านหินสะอาดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันนั้น แท้จริงแล้วก็คงจะไม่ได้มากไปกว่า "การประยุกต์ใช้ศิลปะทางการตลาดที่สวยหรู" ของบรรดาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมถ่านหินนั่นเอง
