สังคมอเมริกันคลั่งไคล้กับความหนุ่มสาว ผู้หญิงเป็นจำนวนมากมีความรู้สึกว่า พออายุเกิน 35 ไปแล้ว จะหมดโอกาส ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรัก หรือโอกาสทางด้านการงาน
เบ็ธ ทายแทล (Beth Tietell) เป็นนักข่าวมือเก่าคนหนึ่งที่สังเกตเห็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่ว่านี้ อดรนทนไม่ได้ เลยเขียนหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่งที่วิเคราะห์เรื่องผู้หญิงกับการหาวิธีชลอความชรา หรือที่สมัยนี้เรียกกันว่า วัยทอง
นักข่าวเบ็ธ ทายแทลใช้เวลาราวๆหนึ่งปี สนทนากับผู้หญิงและผู้ชาย ต่างอายุ และต่างอาชีพ มีตั้งแต่แม่บ้าน ผู้บริหารงานองค์กรที่ไม่หวังผลกำไร นักโภชนาการที่รับประทานอาหารต่อต้านความชรา สาววัย 25 ที่เข้ารับศัลยกรรมตกแต่งป้องกันความชรา ไปจนถึงครูสอนโยคะต่อต้านความแก่และตีนกา
สิ่งหนึ่งที่ติดอยู่ในใจของเธอ คือคนหนุ่มคนสาวที่ทำตัวเหมือนคนวัยกลางคน และคนมีอายุที่อยากจะกลับเป็นคนหนุ่มสาวอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ เธอยังได้เห็นผู้หญิงที่มีอายุ 35 หรือ 40 ขึ้นไปแล้ว ทำตัวเหมือนกับว่า เป็นมนุษย์ล่องหน เพราะคิดว่าไม่มีใครให้ความสนใจอีกต่อไปแล้ว
หนังสือที่คุณเบ็ธเขียนออกมาหลังการเก็บข้อมูลเป็นเวลาหนึ่งปีชื่อ Drinking Problems at the Fountain of Youth ซึ่งเป็นการเล่นคำ แต่ไหนแต่ไรมา คนเราคิดว่าน่าจะมียาวิเศษที่ดื่มแล้ว จะไม่มีวันแก่ตัว ซึ่งเป็นที่มาของคำที่ว่า Fountain of Youth ส่วนคำว่า Drinking Problems โดยทั่วไปหมายความถึงคนติดเหล้า เอามารวมกันเป็นชื่อหนังสือ เป็นการเชื่อมโยงอาการติดเหล้าเข้ากับการดิ้นรนต่อสู้ไม่ยอมแก่ของคนเรา
หนังสือเล่มนี้ สรุปความเห็นว่า สังคมสมัยนี้ อย่างน้อยก็หมายถึงสังคมอเมริกัน กำลังมีการแข่งขันทำศัลยกรรมตกแต่ง เช่น ถ้าคุณผู้หญิงเห็นเพื่อนไปฉีด Botox หรือไปดึงหน้ามา ก็อดไม่ได้ต้องไปฉีดหรือไปดึงกับเขาบ้าง เหมือนกับที่ประเทศต่างๆกำลังแข่งขันสร้างอาวุธกัน
แต่ขณะเดียวกัน คุณเบ็ธบอกว่า เธอเริ่มจะเห็นการเปลี่ยนแปลงบ้างแล้ว แม้สังคมจะยังหมกหมุ่นอยู่กับวัยหนุ่มสาวและภาพลักษณ์ที่ดูเซ็กซี่ แต่เธอได้เห็นสัญญาณบ่งบอกว่า ผู้หญิงที่มีอายุสูงขึ้นกำลังเป็นที่ยอมรับมากขึ้น คอหนังคงจะเห็นว่าในช่วงปีสองปีมานี้ มีบทเด่นๆให้ดาราผู้หญิงวัยกลางคนได้เล่นกันมากขึ้น
นักเขียนและนักวิจารณ์สังคมผู้นี้มีคำแนะนำคุณผู้หญิงทั้งหลายไว้ด้วยว่า แม้เราจะหยุดอายุไว้ไม่ได้ แต่เราสามารถคงความสดชื่น ความกระตือรือร้น และความสนใจในผู้คนและสิ่งต่างๆ รอบตัวเราไว้ได้ เธอบอกว่าที่สำคัญที่สุดก็คือ ขอให้ยิ้มแย้มแจ่มใสไว้เถอะ โลกที่แสนจะวุ่นวายยุ่งเหยิงนี้ก็จะสนองตอบ ดีกว่าไปเสียเงินดึงหน้า เสริมทรง หรือทำอะไรต่ออะไรทั้งหลายที่นอกจะเจ็บตัวแล้วยังต้องเสียเงินด้วย
จะว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้น อยู่ข้างใน หรือในใจของเราก็ได้
