ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ขี้หูคนเราเป็นสิ่งป้องกัน และทำความสะอาดหู ขี้หูจะช่วยดักจับฝุ่นละอองสกปรก และสิ่งต่างๆ ไปจนถึงแมลงที่เข้าไปในหู และขี้หูอาจช่วยป้องกันการติดเชื้อด้วย ดังนั้นขี้หูจึงเป็นสิ่งดี และมีประโยชน์
ขี้หูมีสองอย่าง คือขี้หูชนิดเปียก ซึ่งมีความข้นเหนียว และชนิดแห้ง คนเชื้อสายยุโรปและอัฟริกา ส่วนใหญ่มักมีขี้หูเปียก ส่วนคนเอเชียตะวันออก ส่วนใหญ่มีขี้หูชนิดแห้ง อย่างไรก็ตาม บางคนมีขี้หูมากเกินไป อาจเป็นปัญหาได้ ปกติแล้ว ขี้หูมักจะถูกขับออกไปเอง หลุดออกจากหู หรือถูกชะล้างไป แต่สำหรับบางคนที่ต่อมในช่องหูสร้างขี้หูออกมามากเกินไป ขี้หูส่วนเกินจะแข็งตัว ปิดกั้นขวางอยู่ในช่องรูหู ซึ่งอาจทำให้ความสามารถในการรับฟังเสียงต่างๆ ลดลง คนเราก็มีส่วนทำให้ช่องหูถูกปิดกั้นด้วยขี้หู บางคนพยายามทำความสะอาดหู ซึ่งมีแต่จะผลักดันให้ขี้หูร่นลึกเข้าไปยิ่งขึ้นไปอีก บางครั้งก็จำเป็นต้องขจัดขี้หูออกไป แต่ต้องใช้วิธีที่ปลอดภัย มิฉะนั้นอาจยังความเสียหายแก่หูอย่างมากได้
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐแนะว่า ควรใช้น้ำมันแร่ธาตุอย่างกลีเซอรีน หรือน้ำยาหยอดหู ทำให้ขี้หูอ่อนตัวลงเสียก่อน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ไฮโดรเจนเปอร์ร็อกไซด์อาจช่วยได้
การกำจัดขี้หูส่วนเกินอีกวิธีหนึ่ง คือการตั้งศรีษะตรงๆ จับใบหู แล้วค่อยๆ ดึงขึ้นเบาๆ เพื่อทำให้รูหูตรง แล้วใช้หลอดแบบเข็มฉีดยาค่อยๆ หยอดน้ำลงไปในผนังรูหู แล้วเอียงศีรษะไปข้างๆ ปล่อยให้น้ำไหลออกมา ทำซ้ำสองสามครั้ง โดยใช้น้ำอุณหภูมิระดับเดียวกับอุณหภูมิของร่างกายเรา ถ้าหากน้ำเย็นเกินไป หรืออุ่นเกินไป อาจทำให้วิงเวียนศีรษะได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญห้ามใช้วิธีการนี้ หากแก้วหูเสียหรือแตก เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ และปัญหาอื่นๆ ได้
เมื่อขี้หูถูกขจัดออกไปแล้ว ค่อยๆ เช็ดหูให้แห้งอย่างเบาๆ มือ หากวิธีการนี้ไม่ได้ผล วิธีที่ดีที่สุดคือ ไปหาหมอ หรือเจ้าหน้าที่บริบาลสุขภาพ เพื่อเข้ารับความช่วยเหลือจากมืออาชีพ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ไม่ควรใช้ไม้พันสำลี หรือวัตถุใดๆ สอดเข้าไปในรูหูเป็นอันขาด แต่ให้ใช้สำลีทำความสะอาดช่องหูส่วนนอกได้
