รายงานเรื่องเอดส์ของสหประชาชาติที่เพิ่งเผยแพร่ออกมา กล่าวว่า การรณรงค์ต่อต้านโรคเอดส์ในเอเชียมีทั้งที่ประสบความสำเร็จ และที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ
คุณ Sun Gang เจ้าหน้าที่ของคณะทำงานร่วมในโครงการโรคเอดส์ขององค์การสหประชาชาติในประเทศไทย กล่าวว่า ถึงยังไง เชื้อไวรัส HIV และโรคเอดส์ก็ยังคงเป็นภัยคุกคามในภูมิภาคอยู่ต่อไป
เจ้าหน้าที่สหประชาชาติผู้นี้กล่าวว่า ในปีค.ศ. 2007 ทั่วทั้งภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค ประมาณว่ามีผู้ติดเชื้อ HIV และที่เป็นเอดส์ ราวๆ ห้าล้านคน ในปีเดียวกัน มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกสามแสนแปดหมื่นคน ซึ่งหมายความว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งพันคนต่อวัน เพราะฉะนั้นโรคระบาดโรคนี้ยังไม่หายไปไหน
เจ้าหน้าที่ในโครงการโรคเอดส์ของสหประชาชาติผู้นี้ กล่าวว่า แม้อัตราการติดเชื้อในกัมพูชา พม่าและประเทศไทยจะลดลง แต่ในอินโดนีเซีย ปาปัว นิวกีนี เวียตนาม และปากีสถานเพิ่มขึ้น ในขณะที่บังคลาเทศและจีนรายงานว่าอัตราการติดเชื้อกำลังเขยิบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย
จีนนั้น มีผู้ที่เป็นเอดส์แล้วราวๆ 650,000 คน และในหมู่ผู้ชายที่รักเพศเดียวกัน อัตราการติดเชื้อสูงกว่ากลุ่มผู้ชายที่รักเพศเดียวกันในที่อื่นๆในภูมิภาค
รายงานของสหประชาชาติกล่าวต่อไปว่า กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง อย่างเช่น ผู้ฉีดยาเสพติดเข้าเส้น ยังเผชิญกับอุปสรรคกีดขวางเป็นอย่างมากอยู่ต่อไปในด้านการป้องกันและการบำบัดรักษา
ในขณะที่จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ลาว มาเลย์เซีย ฟิลิปปินส์ ศรีลังกาและเวียตนาม ยังจัดหายาเพื่อป้องกันการถ่ายเชื้อไวรัสจากแม่สู่ลูกได้ไม่ดีพอ
คุณ Gwi-Yeop Son ผู้ประสานงานของสหประชาชาติประจำอยู่ที่กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ประเด็นสำคัญคือการหาเงินทุนมาสนับสนุนให้เพียงพอกับงานที่ต้องทำ
ผู้ประสานงานของสหประชาชาติผู้นี้ กล่าวว่า จะต้องมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องยั่งยืนสำหรับการบำบัดรักษา การให้การดูแลและการป้องกันเชื้อไวรัส HIV และผู้ที่เป็นเอดส์ อัตราการบำบัดรักษาและการติดเชื้อโดยเปรียบเทียบนั้น กล่าวได้ว่า ทุกๆสองคนที่ได้รับการบำบัดรักษา จะมีอีกห้าคนที่เพิ่งติดเชื้อ โรคนี้ยังไม่หมดไป และยังมีคน 33 ล้านคนที่ติดเชื้อแล้วทั่วโลก โดยมีอัตราการติดเชื้อใหม่วันละเจ็ดพันคน
รายงานของสหประชาชาติฉบับนี้มีออกมาหนึ่งสัปดาห์ก่อนการประชุมระหว่างประเทศเรื่องโรคเอดส์ครั้งที่ 17 ที่กรุงเมกซิโก ซิตี้ นครหลวงของเมกซิโก