เกาหลีเหนือลงนามในสนธิสัญญาไม่รุกรานซึ่งกันและกัน ในการประชุมอาเซียน

เกาหลีเหนือลงนามในสนธิสัญญาไม่รุกรานซึ่งกันและกันกับ 24 ชาติ ในการประชุมนอกรอบของภาคีสมาคม ประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ที่สิงคโปร์

บรรดาผู้สังเกตการณ์ให้ความเห็นว่า นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับนโยบายต่างประเทศของเกาหลีเหนือ

รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือลงนามในสัญญามิตรภาพและความร่วมมือ เรียกกันย่อๆว่า TAC เมื่อการประชุมเรื่องความมั่นคงในภูมิภาคของชาติภาคีอาเซียนสิ้นสุดลงเมื่อวันพฤหัสบดี ที่สิงคโปร์

ร่างข้อตกลงฉบับนี้มีมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1976 แล้ว และบรรดาผู้ที่ลงนามในข้อตกลงฉบับนี้ มีเกาหลีใต้ ซึ่งไม่เคยมีการ ประกาศสงบศึกอย่างเป็นทางการกับเกาหลีเหนือรวมอยู่ด้วย

นักรัฐศาสตร์ Alan Chong ของ National University of Singapore ให้ความเห็นว่า แม้ TAC จะมีความผูกพันทางจริยธรรมมากกว่าทางกฎหมายก็ตาม แต่อย่างน้อยก็เป็นเครื่องมือทางการทูตอย่างหนึ่ง ที่ผูกพันผู้ที่ร่วมลงนามในเรื่องการอยู่ร่วมกันอย่างสงบ นักวิชาการผู้นี้ ยังเชื่อด้วยว่า การลงนามในข้อตกลงที่ว่านี้ จะช่วยแยกเกาหลีเหนือออกจากรัฐหรือประเทศอื่นๆที่ถูกประชาคมโลกมองว่าเป็นผู้ก่อกวน

ศาสตราจารย์ Purnendra Jain ผู้อำนวยการโครงการเอเชียศึกษาที่มหาวิทยาลัย Adelaide ในออสเตรเลีย เห็นด้วยว่า เกาหลีเหนือแสดงให้เห็นว่าอยากจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของประชาคมนานาชาติ

อาจารย์ Purnendra Jain กล่าวว่า การลงนามในข้อตกลงมิตรภาพและความร่วมมือดังกล่าว ทำให้มองกันได้ว่า เกาหลีเหนือเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบมากกว่าที่เคยเป็นมาแล้ว และว่าชาติภาคีอาเซียนยังอาจมีโอกาสเรียกร้องให้เกาหลีเหนือปฏิบัติต่อประชาชนของตนให้ดีขึ้นด้วยก็ได้

ขณะเดียวกัน รัฐมนตรี George Yeo ของกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ ประธานของการประชุมอาเซียนครั้งนี้ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือเปิดระบบเศรษฐกิจของประเทศให้มีเสรีภาพมากขึ้น โดยดูเวียตนามเป็นตัวอย่าง เพราะเชื่อว่าจะช่วยยุติการแปลกแยกโดดเดี่ยวเกาหลีเหนือได้รวดเร็วขึ้น

นักวิเคราะห์รายอื่นๆ ให้ความเห็นว่า อาเซียนได้ประโยชน์จากสนธิสัญญาฉบับนี้ เพราะเป็นการยกระดับความเป็นผู้นำ ในภูมิภาคของอาเซียน ซึ่งอาจช่วยทำให้การรวมตัวกันทางเศรษฐกิจของชาติต่างๆ ในเอเชียตะวันออกในลักษณะที ่คล้ายคลึงกันกับสหภาพยุโรป กลายเป็นความจริงได้เร็วขึ้น