ในปากีสถาน ความฮึกเหิมของกลุ่มติดอาวุธพลพรรคทาเลบันในปากีสถาน สร้างความกังวลให้ประชาชนท้องถิ่นอย่างมากถึงความมั่นคงปลอดภัยในประเทศ
ในขณะที่ผู้นำพรรคร่วมรัฐบาลล้วนเดินทางไปต่างประเทศเป็นการส่วนตัว ทำให้เกรงกันว่า หากรัฐบาลปากีสถานไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ อาจจะทำให้สหรัฐและนาโต้ต้องเข้าแทรกแซงทางการทหารได้
ปัญหาการโจมตีข้ามชายแดนอาฟกานิสถานเพื่อมุ่งทำร้ายกองกำลังสหรัฐและกองกำลังนาโต้ โดยกลุ่มพลพรรคทาเลบันจากปากีสถาน ที่เพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัวในห้วงสองเดือนที่ผ่านมา สร้างความตึงเครียดให้หลายฝ่ายนะคะ ทางการอาฟกานิสถานได้ชี้นิ้วว่าปากีสถานเป็นต้นเหตุเนื่องจากไปเจรจาสันติภาพกับกลุ่มติดอาวุธพลพรรคทาเลบันเหล่านั้นทำให้กลุ่มติดอาวุธฮึกเหิมและออกปฏิบัติการข้ามชายแดนเข้าไปโจมตีเป้าหมายในอาฟกานิสถานอย่างเสรี
ประธานาธิบดีฮาหมิด คาไซ กล่าวหาว่าหน่วยข่าวกรองกองทัพปากีสถานเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดพลีชีพต่อสถานทูตอินเดียในกรุงคาบูลที่คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 50 รายเมื่อเร็วๆนี้ และยังเกี่ยวข้องกับการโจมตีจุดอื่นๆ อีกด้วย ส่วนทางประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐก็ประกาศจะหยิบยกปัญหานี้และข้อกังวลของสหรัฐกับอาฟกานิส ถานขึ้นเจรจากับนายยูสุฟ ราซา กิลยานี นายกรัฐมนตรีปากีสถานที่กำลังจะเดินทางไปเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้
ล่าสุดกองกำลังนาโต้ที่ปฏิบัติในอาฟกานิสถานได้วางกำลังจำนวนหนึ่งตามตะเข็บชายแดนอาฟกานิสถานปากีสถาน ซึ่งตรงข้ามเขตปกครองชนเผ่าของปากีสถานที่จังหวัดทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นที่ฝังตัวของกลุ่มติดอาวุธ โดยว่ากันว่าเป็นการเตรียมตัวตอบโต้หากถูกกลุ่มติดอาวุธจากปากีสถานโจมตีข้ามชายแดน
คุณทานเวีย คาหลิด นักวิเคราะห์การเมืองปากีสถานบอกว่า แม้ว่ารัฐบาลปากีสถานจะปฏิเสธความสำคัญของการวางกองกำลังของนาโต้ตามตะเข็บชายแดน ประชาชนปากีสถานยังไม่หายหวาดหวั่น เธอบอกว่าทางที่ดี รัฐบาลปากีสถานควรจะอธิบายให้คนทั้งชาติเข้าใจว่า กำลังเกิดอะไรขึ้น และรัฐบาลกำลังดำเนินการอย่างไรเพื่อรับหน้ากับแรงกดดันจากสหรัฐและจากกองกำลังนาโต้
กองกำลังสหรัฐได้เพิ่มความถี่ในการโจมตีทางอากาศในหมุ่บ้านตามชายแดนปากีสถานเพื่อจัดการกับกลุ่มติดอาวุธพลพรรคทาเลบัน ซึ่งเรื่องนี้ได่เพิ่มความกังวลต่อคนปากีสถานอย่างมาก เพราะเกรงว่าสหรัฐอาจจะถือโอกาสโจมตีทางอากาศมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าหากรัฐบาลปากีสถานไม่สามารถจัดการกับปัญหาในบ้านตัวเองนี้ได้
คุณทานเวีย ยังบอกอีกว่า ปฏิบัติการทางอากาศของกองทัพสหรัฐในเขตชายแดนปากีสถานนี้ ทำให้ประชาชนปากีสถานหมดศรัทธาในรัฐบาลของตนเอง และการที่ผู้นำพรรคร่วมรัฐบาลของปากีสถาน คือนายอาลี ซัดดารี และนายนาวาส ชารีฟ ล้วนแต่ไปเยือนต่างประเทศด้วยเหตุผลส่วนตัว ในห้วงที่ประเทศกำลังต้องการผู้นำเข้ามาดูแลปัญหา ก็ยิ่งทำให้ประชาชนกังวลมาก
ความตึงเครียดระหว่างปากีสถาน กับอาฟกานิสถาน กองกำลังนาโต้และสหรัฐ ทวีคูณขึ้นหลังจากที่ปากีสถานเปิดเจรจาสันติภาพกับกลุ่มติดอาวุธพลพรรคทาเลบัน โดยสหรัฐ กองกำลังนาโต้ และอาฟกานิสถานเห็นว่า การเจรจาสันติภาพกับกลุ่มติดอาวุธในปากีสถาน เป็นตัวสั่นคลอนการปฏิบัติรักษาความมั่นคงในอาฟกานิสถานและความมั่นคงของทั้งภูมิภาค เพราะว่า กลุ่มติดอาวุธเหล่านี้เกี่ยวโยงกับกลุ่มก่อการร้ายอัลไคด้าซึ่งอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ก่อการร้าย 11 กันยายนในสหรัฐเมื่อกว่าหกปีที่แล้วซึ่งเป็นต้นเหตุให้สหรัฐบุกอาฟกานิสถาน
ทางด้านคุณเมมู้ด ค่าน นักวิเคราะห์การเมืองท่านหนึ่ง บอกว่า รัฐบาลปากีสถานต้องรีบควบคุมสถานการณ์การสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธที่ดำเนินอยู่ในหลายเมืองชายแดนให้ได้โดยเร็ว ไม่งั้นจะขายหน้ามากกว่านี้ ถ้าหากกองกำลังทหารรัฐบาลต่างชาติจะเข้ามาจัดการปัญหาเสียอีกเพราะอดรนทนไม่ได้
คุณเมมู้ด บอกว่าจำเป็นอย่างมากที่รัฐบาลปากีสถานต้องร่วมมือกับสหรัฐและอาฟกานิสถานในเรื่องการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองต่อกันเพื่อจะได้ดำเนินการต่อกลุ่มติดอาวุธที่เป็นตัวปัญหาแก่ทุกฝ่ายให้สิ้นซาก อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ทุกคนจะเห็นด้วยกับการปฏิบัติการทางทหาร คุณคาลิด เรมาน ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายศึกษา เห็นด้วยกับการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มติดอาวุธ โดยบอกว่าการเจรจาสันติภาพเป็นการเดินหมากที่ถูกทางแล้วเพราะว่าเป้นผลประโยชน์ของปากีสถานเองและทางสหรัฐกัลรัฐบาลต่างชาติควรจะปล่อยให้ปากีสถานจัดการกับปัญหาในบ้านตนเองเพราะปากีสถานเป็นประเทศที่มีอธิปไตย
ทางด้านคุณซัฟฟาร์ จาสปาล นักวิเคราะห์การเมืองอีกท่านหนึ่งบอกว่าเขาอยู่ตรงกลางโดยบอกว่า ถ้าการเจรจาสันติภาพไม่สำเร็จ เขาก็เห็นด้วยกับการใช้กำลังทหารเข้าจัดการเช่นกัน
เขาบอกว่า ปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มติดอาวุธ ควรเป็นทางเลือกสุดท้าย และถ้าต้องทำก็ต้องปฏิบัตืให้ถึงขั้นเด็ดขาด ให้ขุดรากถอนโคนกลุ่มติดอาวุธให้สิ้นซาก ซึ่งต้องให้เวลาปฏิบัตการนาน ไม่ใช่ปฏิบัติการเป็นพักพัก อย่างที่เกิดขึ้นในบางจุดทางเขตปกครองชนเผ่าและทางจังหวัดตะวันตกเฉียงเหนือ เพราะปฏิบัติการทางทหารแบบผักชีโรยหน้า ไม่มีประโยชน์อะไรไปมากกว่าการแสดงแสนยานุภาพกองทัพ แต่ผลกระทบที่ตามมาใหญ่หลวงกว่า อย่างที่เห็นก็คือการเพิ่มขึ้นของเหตุระเบิดพลีชีพในหลายๆเมืองของปากีสถานและที่กรุงอิสลามบัดเมืองหลวงเองด้วย โดยฝีมือของกลุ่มติดอาวุธเพื่อแก้แค้นรัฐบาลปากีสถาน
