รัฐบาลทหารพม่า กักบริเวณผู้นำฝ่ายตรงข้าม อองซานซูจี ให้อยู่ภายในที่พักต่อไปอีกอย่างน้อยหกเดือน อนึ่งกองกำลังรักษาความมั่นคง จับกุมผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายค้าน ราวๆ 20 คน
ผู้สื่อข่าว Voice Of America หลุยส์ รามิเรซ ส่งรายงานมาจาก กรุงเทพมหานครว่า ในเวลาเดียวกัน องค์การให้ความช่วยเหลือต่างๆ กล่าวว่า กำลังค่อยๆเข้าไปถึงบริเวณที่ประสบความหายนะจากพายุไซโคลน นาร์กิซ
รัฐบาลทหารพม่า จะต้องตัดสินใจว่าจะนำตัวนางอองซานซูจี ขึ้นพิจารณาคดี หรือว่า จะกักบริเวณให้เธออยู่ภายในบ้านพักต่อไป นางโดนกักบริเวณมาเกือบตลอดเวลาในช่วง 18 ปีที่ผ่านมา
ในวันอังคาร เลขาธิการสมาคมอาเซียน ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ ผู้เพิ่งกลับมาจากกรุงย่างกุ้ง กล่าวว่า ตัวท่านและคนอื่นๆ มิได้นำเรื่อง นางอองซานซูจี ขึ้นมาพูดจากับบรรดานายพลพม่า เมื่อมีการประชุมของประเทศผู้บริจาค ที่กรุงย่างกุ้ง เมื่อวันอาทิตย์
อนึ่ง มีผู้เห็นกองกำลังรักษาความมั่นคงจับกุมสมาชิกของพรรคฝ่ายค้าน คือ พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ผู้กำลังประท้วงการกักบริเวณ นางอองซานซูจี อยู่นั้นไป ราวๆ 20 คน
รัฐบาลทหารพม่า ตัดสินใจกักบริเวณนางอองซานซูจีต่อไปอีก ในขณะที่คณะทหารที่ปกครองพม่า และการที่พวกเขาละล้าละลังใจ ในอันที่จะอนุญาติให้คณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายการให้ความช่วยเหลือจากต่างประเทศ เข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ในบริเวณที่โดนพายุไซโคลนนาร์กิซโหมกระหน่ำอย่างหนักที่สุดนั้น กำลังตกเป็นเป้าของความสนใจ
บรรดาองค์การให้ความช่วยเหลือกล่าวว่า คณะทหารพม่าผ่อนคลายการควบคุมลงเล็กน้อย นับตั้งแต่พลเอก ตานฉ่วย ผู้นำของพม่า บอกกับอาคันตุกะ คือ เลขาธิการสหประชาชาติ บาน กี-มูน เมื่อวันศุกร์ก่อนว่า พม่าจะอนุญาติ ให้พนักงานด้านการให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นคนของชาติไหน เข้าพม่าได้
คุณ พอล ริสลี่ย์ แห่งโครงการอาหารโลก กล่าวต่อผู้สื่อข่าวที่กรุงเทพมหานคร ในวันอังคารว่า เจ้าหน้าที่ของโครงการอาหารโลกบางส่วน ได้รับอนุญาติให้เดินทางเข้าไปยังบริเวณดินดอนรูปสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิระวดี ที่ประสบความเสียหายอย่างหนัก และเจ้าหน้าที่ของโครงการอาหารโลกอีก เจ็ดคนได้รับวีซ่าให้เข้าพม่าได้ในสัปดาห์นี้
คุณ พอล ริสลี่ย์ กล่าวว่า ถึงแม้เรื่องเหล่านั้น จะเป็นการดำเนินงานซึ่งไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ก็ก่อให้เกิดกำลังใจ และเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า เกิดความตระหนักมากยิ่งขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประโยชน์ที่ได้รับจากการอนุญาติให้พนักงานช่วยเหลือ เพื่อเห็นแก่มนุษยธรรม เข้าไปยังบริเวณดินดอนรูปสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิระวดี ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นเหลือเกิน
สหประชาชาติกล่าวว่า มีแผนจะเพิ่มการปฎิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ในเมื่อคณะทหารผู้ปกครองพม่า กำลังอนุญาติให้เข้าไปยังบริเวณที่ประสบความเสียหายอย่างหนักจากพายุไซโคลนนาร์กิซนั้นได้มากยิ่งขึ้น
จนถึงขณะนี้ สหประชาชาติ สามารถช่วยเหลือผู้ที่รอดชีวิตจากพายุไซโคลนนาร์กิซได้ราวหนึ่งล้านคน ซึ่งส่วนมากพำนักอาศัยอยู่รอบๆเขตกรุงย่างกุ้ง แต่คนในบริเวณดินดอนรูปสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิระวดี เกือบหนึ่งล้านห้าแสนคน ยังมิได้รับความช่วยเหลือจากต่างประเทศเลย
โฆษกหญิง อลิซาเบธ บายร์ส ขององค์การเพื่อการประสานความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์แห่งสหประชาชาติกล่าวว่า การเข้าไปช่วยเหลือคนเหล่านั้น ทำได้ยาก เพราะเหตุที่มีแม่น้ำ เกาะเล็ก เกาะน้อยมากมาย และเพราะเรื่องฤดูมรสุม ซึ่งกำลังจะถึงช่วงที่รุนแรงที่สุดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ภาคีสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสหประชาชาติ ให้คำมั่นว่า จะให้เงินหลายสิบล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อนำไปใช้ในการบรรเทาทุกข์นั้น ในการประชุมประเทศผู้บริจาคที่กรุงย่างกุ้งเมื่อวันอาทิตย์ องค์การให้ความช่วยเหลือต่างๆ กล่าวว่า มีเงินทุนสำหรับใช้เพื่อการบรรเทาทุกข์มากมาย ถ้าบรรดานายพลพม่า เปิดทางให้ทีมเจ้าหน้าที่จากต่างประเทศ สามารถเข้าไปประเมินความจำเป็นและตรวจพิสูจน์และติดตามสอดส่องว่า ความช่วยเหลือได้รับการนำไปจ่ายแจกอย่างไร
