ลิ้งค์เชื่อมต่อ

เชื้อเพลิงชีวภาพจากข้าวฟ่างหวาน


เวลานี้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกำลังพยายามค้นหาแหล่งพลังงานใหม่ๆ มาใช้แทนน้ำมันปิโตรเลียม และพลังงานจากเชื้อเพลิงชีวภาพที่ผลิตจากพืชผลต่างๆ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่ามีธัญพืชชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ส่งผลกระทบถึงปริมาณอาหารโลกมากนัก พืชที่ว่านี้คืออะไร

พืชที่ว่านั้นก็คือ sweet sorghum หรือที่เราเรียกกันว่าข้าวฟ่างหวานนั่นเอง นักวิทยาศาสตร์ที่กำลังทดลองผลิตเชื้อเพลิงจากพืชชนิดนี้ที่อินเดียเรียกข้าวฟ่าง หวานว่าเป็นพืชวิเศษที่สามารถใช้เป็นอาหารสัตว์และนำมาผลิตพลังงานสะอาดได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคาและปริมาณอาหารโลกมากนัก เพราะพืชชนิดนี้ไม่เป็นที่ต้องการในตลาดโลกมากดังเช่นข้าวโพด โดยมักจะปลูกและซื้อขายกันในประเทศมากกว่า ปัจจุบัน เมล็ดข้าวฟ่างหวานเป็นธัญพืชสำคัญอันดับ 5 ของโลกรองจาก ข้าว ข้าวโพด ข้าวสาลีและข้าวบาร์เล่ย์

ข้าวฟ่างชนิดนี้มีลำต้นค่อนข้างสูง ประมาณ 2-4 เมตร ลักษณะคล้ายข้าวโพด ในลำต้นจะมีน้ำหวานอยู่มากคล้ายอ้อย ซึ่งใช้ทำน้ำเชื่อมหรือน้ำตาลได้ และยังสามารถนำไปใช้ทำแอลกอฮอล์และ เชื้อเพลิงเอทานอลซึ่งเป็นพลังงานสะอาดได้อีกด้วย ต้นและใบใช้ทำหญ้าหมักหรือปลูกให้สัตว์กินสดๆ ข้าวฟ่างหวานสามารถเติบโตได้ดีในพื้นที่แห้งแล้ง ดินเค็ม หรือฝนน้อย เพราะพืชชนิดนี้ทนความร้อนสูง ซึ่งเหมาะสำหรับการเพาะปลูกในประเทศที่ยากจน เช่นในอาฟริกาและบางส่วนของเอเชีย ทำให้ไม่เกิดปัญหาการทำลายป่าไม้เขตฝน เหมือนที่เกิดขึ้นกับการปลูกต้นปาล์มน้ำมันหรืออ้อยในเอเชียและบราซิล นอกจากนี้ การปลูกข้าวฟ่างชนิดนี้ไม่จำเป็นต้องใช้การชลประทานมากนัก จึงช่วยลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้ เครื่องสูบน้ำได้้ด้วย เรียกว่าประโยชน์มากมายจริงๆ

ข้าวฟ่างหวานให้พลังงานค่อนข้างสูง คือราว 8 หน่วยต่อพลังงานที่ใช้ในการเพาะปลูกและการผลิต 1 หน่วย ซึ่งพอๆ กับพลังงานจากน้ำตาลอ้อย และมากกว่าพลังงานที่ได้จากข้าวโพดถึง 4 เท่า และหากมีการบริหารจัดการที่ดี เกษตกรที่หันมาปลูกข้าวฟ่างหวานอาจจะมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 20% เพราะจากการวิจัยในอินเดียพบว่าต้นทุนในการปลูกข้างฟ่างหวานเพื่อนำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงเอทานอลนั้น ต่ำกว่าต้นทุนในการปลูกอ้อยและข้าวโพดพอสมควร ซึ่งนอกจากที่อินเดียแล้ว เวลานี้ยังมีโครงการทดลองปลูกข้าวฟ่างหวานในฟิลิปปินส์ เม็กซิโก โมซัมบิกและเคนย่าด้วย

ปัจจุบันมีการเพาะปลูกข้าวฟ่างหวานกันมากใน 99 ประเทศทั่วโลก ประเทศสำคัญๆได้แก่ สหรัฐ ไนจีเรีย อินเดีย จีน เม็กซิโก ซูดานและอาร์เจนติน่า โดยทั้งสหรัฐและสหภาพยุโรปต่างให้ความสนใจไปที่การผลิตเชื้อเพลิงสะอาดจาก พืชชนิดนี้มากขึ้น และประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายก็สามารถได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนให้ เกษตรกรปลูกข้าวฟ่างหวานเพื่อใช้ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันที่นับวันราคายิ่งแพงขึ้นเรื่อยๆ

XS
SM
MD
LG