ทุกวันนี้ทั่วโลกต่างตื่นตัวเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและปริมาณน้ำมันดิบสำรอง จึงพยายามมีการคิดค้นพลังงานทางเลือกใหม่ๆ มาใช้กับเครื่องยนต์ รวมทั้งการพัฒนาเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐคาดการณ์ว่าภายในช่วง 10 ปีข้างหน้า รถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลในสหรัฐจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า และน้ำมันดีเซล ชีวภาพจะกลายมาเป็นพลังงานทางเลือกแบบใหม่ ที่หลายคนเชื่อว่าจะเป็นเชื้อเพลิงแห่งอนาคต
น้ำมันดีเซลชีวภาพผลิตจากน้ำมันพืชต่างๆ เช่น ข้าวโพด อ้อย หรือถั่วเหลือง และสามารถใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลโดยตรง หรือผสมกับน้ำมันปิโตรเลียมก็ได้ น้ำมันดีเซลชีวภาพนั้นเป็นเชื้อเพลิงที่สะอาดและประหยัดกว่าน้ำมันเบนซิน และไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ
ที่รัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐมีสถานีจ่ายน้ำมันดีเซลชีวภาพ Biofuel Oasis ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2003 และมีลูกค้าราว 2,500 คน น้ำมันดีเซลชีวภาพของ Biofuel Oasis นั้นพิเศษกว่าที่อื่นๆ เพราะผลิตจากน้ำมันพืชใช้แล้วนะครับ คุณ Sandra Lupien คือหนึ่งในลูกค้าของ Biofuel Oasis
คุณ Lupien บอกว่า ประเด็นสำคัญที่สุดที่เธอคำนึงถึงคือการใช้น้ำมันดีเซลชีวภาพแบบที่นำน้ำมันพืชใช้ แล้วตามร้านอาหารที่ต้องทิ้งอยู่แล้ว นำกลับมาผลิตใหม่แทนที่จะใช้น้ำมันดีเซลที่ผลิตโดยตรงจากพืชที่ปลูกทั่วไป
น้ำมันดีเซลชีวภาพนั้นมี 2 ชนิดนะครับ คือแบบที่ผลิตจากพืชต่างๆ เช่น ถั่วเหลือง ข้าวโพด ที่เรียกว่าน้ำมันดีเซลชีวภาพแบบบริสุทธิ์ กับชนิดที่ผลิตจากน้ำมันพืชใช้แล้ว ซึ่งยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก ซึ่งแบบที่ 2 นี้จะมีราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลธรรมดา ประมาณ 5 เซนต์และแพงกว่าน้ำมันเบนซิน 10 เซนต์ คือราวๆ 1 ดอลล่าร์ 10 เซนต์ต่อลิตรในรัฐแคลิฟอร์เนีย เทียบเป็นเงินบาทก็ประมาณ 32 บาท
ครับ แม้ว่าเมื่อเทียบลิตรต่อลิตรแล้ว น้ำมันดีเซลในสหรัฐจะแพงกว่าเบนซินเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริงนั้นเครื่องยนต์ดีเซลจะประหยัดกว่าเครื่องยนต์เบนซินมาก และมีมลพิษน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่สถานีจ่ายน้ำมันดีเซลชีวภาพในอเมริกายังมีไม่มากนัก สำหรับน้ำมันดีเซลชีวภาพจากน้ำมันพืชใช้แล้วของสถานี Biofuel Oasis นั้น บริษัทโยเคโอ ไบโอฟิวล์สในแคลิฟอร์เนียเป็นผู้ผลิต คุณคูม่าร์ โพลว์เกอร์ ประธานผู้ก่อตั้งบริษัทโยเคโออธิบายว่า บริษัทจะส่งรถบรรทุกไปยังร้านอาหารต่างๆ ราว 700 แห่งทั่วแคลิฟอร์เนียเหนือเพื่อนำน้ำมันพืชใช้แล้วมากลั่นและกรอง ในบ่อน้ำร้อนเพื่อชะล้างเศษอาหารและน้ำออก จากนั้นจึงนำมาแปรรูปใหม่ แล้วเติมเมทานอลและโปรแตสเซียม ไฮดรอกไซด์หรือไลลงไปเพื่อทำให้โมเลกุลของน้ำมันพืชแตกตัว คุณโพลว์เกอร์ยืนยันว่าน้ำมันดีเซลชีวภาพจากน้ำมันพืชใช้แล้วมีประโยชน์มากกว่าโทษแน่นอน แต่หากพูดถึงน้ำมันดีเซลชีวภาพแบบที่ผลิตจากพืชโดยตรงนั้น นักธุรกิจผู้นี้บอกว่ายังต้องชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์ที่จะได้จากการนำพืชมาผลิตเป็นพลังงานกับพื้นที่ที่ต้องสูญเสียไปกับเพาะปลูกพืชนั้น ว่าอย่างไหนจะคุ้มกว่ากัน
คุณคูม่าร์ โพลว์เกอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการน้ำมันดีเซลชีวภาพแห่งชาติ บอกอีกว่ายังต้องมีการค้นหาพืชที่สามารถนำมาผลิตเป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป ซึ่งหมายถึงพืชที่ให้ปริมาณผลผลิตหรือน้ำมันสูงสุดเทียบกับพื้นที่เพาะปลูก เช่น ต้นเทียนจีน ที่ให้น้ำมันถึง 4,730 ลิตรต่อ 1 เอเคอร์หรือประมาณ 2 ไร่กว่า แม้จะปลูกยากแต่คาดว่าจะมีประโยชน์มากในอนาคต นอกจากนี้ ประธานบริษัทโยเคโอยังแนะนำว่า สาหร่ายทะเลก็เป็นพืชทางเลือกอีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะให้ผลผลิตได้หลายหมื่นลิตรต่อพื้นที่ 1 เอเคอร์
ไม่ว่าจะผลิตจากพืชชนิดใดก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญคาดว่าในอนาคต น้ำมันดีเซลชีวภาพจะกลายมาเป็นพลังงานสำรองที่สำคัญในอนาคตอย่างแน่นอน
