ถึงแม้ว่าการปฏิวัติในประเทศไทย จะผ่านไปแล้วเกือบ 1 ปี และได้มีการลงมติยอมรับร่างรัฐธรรมนูญรวมทั้งกำหนด การเลือกตั้งใหม่แล้วก็ตาม แต่เรื่องราวการยึดอำนาจครั้งล่าสุดในประเทศไทย ยังคงเป็นที่สนใจต่อสื่อมวลชนต่างประเทศอยู่ดี
และในโอกาสนี้ ผู้สื่อข่าววีโอเอได้ไปสอบถามความเห็นของคุณ มรวัตต์ ผู้ประกอบอาชีพค้าขายรายหนึ่งย่านถนน สีลม เขาบอกว่าสามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้นำคนเก่ามีความผิดเช่นการคอรัปชั่น ก็ถือว่ามีเหตุผลในการปฏิวัติ เหตุผลที่อ้างในการปฏิวัติมีอยู่ 4 ข้อ แต่ทุกวันนี้ยังพิสูจน์ไม่ได้ จึงไม่ทราบว่ามีเหตุผลสมควรหรือไม่ในการทำปฏิวัติ
ส่วนอาจารณ์ธิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ แห่งคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งข้อสังเกตกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า ถึงแม้ว่าการทำปฏิวัติเมื่อปีที่แล้ว จะช่วยกำจัดผู้นำที่ถูกกล่าวหาว่าคอรัปชั่น และใช้อำนาจในทางที่ผิดก็ตาม แต่คณะทหารที่ทำปฏิวัติได้ทำข้อผิดพลาดที่ปฏิเสธทุกอย่างที่ผู้นำคนก่อนเคยทำมา และว่าด้วยเหตุนี้คณะผู้ ทำปฏิวัติจึงไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้มากนักในช่วงปีที่ผ่านมา นอกเหนือไปจากการขับนายก รมต.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งเท่านั้น สำหรับชาวบ้านหรือผู้ประกอบอาชีพค้าขายอีกคน ซึ่งหลุยส์ รามิเรซ ผู้สื่อข่าววีโอเอประจำ กทม. ไปสอบถามความเห็นมานั้นคือคุณ อรทัย ซึ่งขายดอกไม้อยู่ข้างถนน คุณอรทัยบอกว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาการทำมาหากินค่อนข้างลำบากขึ้น เพราะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง
นักเศรษฐศาสตร์หลายคนมองว่า ในรอบปีที่ผ่านมานี้ ประเทศไทยเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ เพราะการลงทุนจากต่างประเทศชะลอตัวลง และไทยอาจจะเสียข้อได้เปรียบในแง่ตลาดแรงงานราคาถูก ให้กับจีนและเวียตนามไปในไม่ช้า นอกจากนั้นแล้ว ประเทศไทยก็ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่ม ประเภทเทคโนโลยีแข่งกับมาเลเซีย สิงค์ไปร์ และในไต้หวันด้วย และในขณะนี้คนไทยซึ่งจะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งช่วงปลายปีก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะมีใครบ้างเสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งในเดือนธันวาคม และนโยบายของพรรคการเมืองเหล่านี้จะเป็นอย่างไร