เมื่อวันเสาร์ ที่กรุงวอชิงตัน กลุ่มผู้ต่อต้านสงครามหลายพันคนชุมนุมประท้วงนโยบายการส่งทหาร เข้าไปทำสงครามในอิรัค ของ ปธน.บุช โดยผู้นำการประท้วงคนหนึ่ง เรียกร้องให้ดำเนินการถอดถอน ผู้นำฝ่ายบริหารของสหรัฐออกจากตำแหน่งด้วย
กลุ่มผู้ประท้วงสงครามในอิรัคครั้งล่าสุดนี้ มีจำนวนอย่างน้อย 5 พันคน และประกอบด้วยทหารผ่าน ศึกอิรัค ครอบครัวทหาร รวมทั้งผู้ที่เห็นว่า รัฐบาลสหรัฐนั้น ควรนำเงินงบประมาณส่วนี้ไปใช้ด้าน การศึกษา และเพื่อสร้างงานในประเทศมากกว่า
นายแรมซี่ คล็าค อดีต รมต.ว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้กล่าวปราศรัยคนหนึ่ง กล่าวหาว่า รัฐบาลของ ปธน.บุชว่าใช้วิธีทรมาน ลักพาตัว และละเมิดสิทธิมนุษยชน นายแรมซี่ คล็าค ถึงกับเรียก ร้องให้รัฐบาลอเมริกัน ดำเนินการพิจารณาโทษเพื่อถอดถอน ปธน.บุช ออกจากตำแหน่งด้วย
ในการประชุมประท้วงครั้งนี้ ทหารผ่านศึกอิรัคคนหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับประสบการณ์ของตน ในอิรัค เขาบอกว่ายิ่งสหรัฐส่งทหารเข้าไปในอิรัคนานเท่าใด ก็ยิ่งจะมีคนเสียชีวิตโดยไร้เหตุผลมากขึ้น เท่านั้น แต่ในการประท้วงดังกล่าวนี้ ก็มีกลุ่มผู้สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลสหรัฐที่มาประท้วงต่อต้าน ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับสงครามเช่นกัน โดยกลุ่มผู้ต่อต้านผู้ประท้วงสงครามบอกว่า คนเหล่านี้หลงผิด เพราะ ถ้าสหรัฐถอนทหารออกจากอิรัคแล้ว ทุกอย่างก็จะจบสิ้นลง แต่ที่จริงแล้วเหตุการณ์จะไม่เป็นเช่น นั้น
ในคำปราศรัยต่อประชาชนอเมริกันทางวิทยุเมื่อวันเสาร์ ปธน.บุช กล่าวว่า ความสำเร็จของสงครามใน อิรัคนั้น สำคัญต่อความมั่นคงของสหรัฐเอง และได้ประกาศจะถอนทหารสหรัฐ 5,700 คนออกจากอิรัค ภายในสิ้นปีนี้ รวมทั้งจะลดจำนวนทหารอเมริกันให้เหลือราว 1 แสน 3 หมื่นคนภายในกลางปีหน้า
