บรรดาผู้บริหารระดับสูงของอุตสาหกรรมการบินในเอเชียคาดการณ์ว่ากิจการของสายการบินต่างๆในเอเชียและย่านแปซิฟิกจะเจริญเติบโตอย่างสูงในปีนี้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือ ราคาเชื้อเพลิงถูกลงและการที่ตลาดจีนเติบโตขึ้น
สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศหรือ IATA คาดการณ์ไว้ว่า ผู้โดยสารเครื่องบินในเอเชียและย่านแปซิฟิกจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า IATA กล่าวว่าเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในเอเชียที่กำลังเฟื่องฟูประกอบกับการที่ชนชั้นกลางในเอเชียและย่านแปซิฟิกที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ตลาดมีศักยภาพสูงที่จะเติบโต นอกจากนั้น สายการบินต่างๆยังเพิ่มเที่ยวบินไป-กลับเมืองจีนมากขึ้น จึงเป็นปัจจัยช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการบินเอเชียเช่นกัน
ตลาดการเดินทางท่องเที่ยวของจีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในโลก สื่อมวลชนของรัฐบาลจีนรายงานว่า เมื่อปีที่แล้วมีชาวจีนเดินทางภายในประเทศโดยเครื่องบินประมาณ 160 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี พศ. 2548 อยู่ 15% ในขณะเดียวกัน คาดว่าการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีหน้าจะส่งผลให้ตลาดการเดินทางท่องเที่ยวทางอากาศของจีนจะเติบโตอย่างรวดเร็วต่อไปอีก ขณะนี้สายการบินต่างๆในประเทศจีนมีเครื่องบินรุ่นใหม่ไว้ใช้งานกว่า 150 ลำ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องบินโดยสารภายในประเทศ
ซี บี พาร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเอเชียน่าของเกาหลีใต้กล่าวว่า สายการบินเอเชียน่ามีจุดหมายในประเทศจีนกว่า 20 แห่ง และว่าจีนเป็นประเทศที่อุตสาหกรรมการบินกำลังจะเฟื่องฟูอย่างมากในอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบรรดาผู้บริหารสายการบินจะมั่นใจว่าจำนวนผู้โดยสารเครื่องบินจะเพิ่มขึ้น แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับราคาเชื้อเพลิงอยู่พอสมควร จิว จุ้น เส็ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินสิงคโปร์กล่าวว่า ขณะนี้ ภาวะแวดล้อมทางธุรกิจและผลกำไรของอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกกำลังไปได้ดี และว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นคืนสู่สภาพเดิมได้อย่างรวดเร็วแม้ในยามที่ราคาน้ำมันแพงมาก อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าสภาพการณ์แบบนี้จะดำเนินต่อไปได้อีกนานแค่ไหน
ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ช่วยให้อุตสาหกรรมการบินเฟื่องฟูก็คือ การที่สายการบินต้นทุนต่ำหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดเอเชียและย่านแปซิฟิกเป็นระลอก ทำให้เป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อสายการบินอื่นๆให้เร่งมือปรับปรุงเพื่อการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนเป็นห่วงว่าการแข่งขันอย่างรุนแรงอาจจะส่งผลร้ายได้ เช่น บางสายการบินจะที่นั่งเหลือมากเกินไป ปัญหาด้านความปลอดภัยดังเช่นที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินของสายการบินแอคัมแอร์ที่หายไปในอินโดนีเซียเมื่อต้นเดือนมกราคม รวมทั้งศักยภาพของท่าอากาศยานต่างๆในการให้บริการผู้โดยสารจำนวนมาก และรองรับปริมาณเครื่องบินที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้คาดว่าปัญหาข้างต้นน่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่บรรดาผู้บริหารสายการบินก็ยังมั่นใจว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียและย่านแปซิฟิก จะทำให้มีการเดินทางทางอากาศเพิ่มมากขึ้นอยู่ดี ผู้บริหารเหล่านั้นต่างมองเห็นเส้นทางการบินใหม่ๆ ราคาค่าตั๋วเครื่องบินที่ถูกลงซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้มีผู้โดยสารมากขึ้น และทำให้อุตสาหกรรมการบินในปี 2550 และปีต่อๆไปนั้น ไปได้สวยทีเดียว
