หลังจากที่คณะลูกขุนใหญ่ของนิวยอร์กตั้งข้อหาอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 30 มี.ค. เขากลายเป็นบุคคลในข่าวพาดหัวครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ ผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองตั้งคำถามถึงผลกระทบต่อความนิยมในตัวทรัมป์
ด้านหนึ่ง นักวิเคราะห์มองว่า น่าจะเกิดผลเชิงลบเพราะทรัมป์ได้กลายเป็นอดีตผู้นำสหรัฐฯ คนเเรกที่ถูกดำเนินการตั้งข้อหาเอาผิด แต่อีกด้านหนึ่งมีคนมองว่า ข่าวนี้อาจเพิ่มความนิยมในตัวทรัมป์ที่กำลังเเข่งเป็นตัวเเทนพรรครีพับลิกันเพื่อชิงเก้าอี้ประธานาธิดีสหรัฐฯ
สำนักข่าวรอยเตอร์สัมภาษณ์ชาวพรรครีพับลิกันในรัฐเนวาดา 35 คน ซึ่งเป็นรัฐทางตะวันตกที่จะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งล่วงหน้าเพื่อคัดตัวเเทนพรรคไปเเข่งขันกับพรรคเดโมเเครตในสนามการเลือกตั้งประธานาธิบดีปีหน้า
ดังนั้น รัฐเนวาดาจึงมีบทบบาทสำคัญต่อการจุดกระเเสความนิยมในตัวผู้สมัครของรีพับลิกันในช่วงต้นของการคัดตัวภายในพรรค
หนึ่งในผู้สังกัดพรรครีพับลิกันที่ถูกสัมภาษณ์โดยรอยเตอร์ คือ เเลร์รี ไวท์ นักดนตรีวัย 75 ปี
เขากล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนคิดว่าจะสนับสนุน รอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ตัวเต็งอีกคนหนึ่งในการเเข่งเป็นตัวเเทนพรรครีพับลิกันเพื่อชิงเก้าอี้ประธานาธิดีสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม เมื่อทราบถึงการตั้งข้อหาทรัมป์เมื่อสิ้นเดือนมีนาคม ไวท์กล่าวว่า: "ตอนนี้ ผมจะโหวตให้ทรัมป์อย่างเเน่นอน"
"การตั้งข้อหา เป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับผม เพราะทรัมป์เจ็บปวดมามากจากการถูกกระทำทางการเมือง ผมคิดว่า เขาเเข็งเเกร่งที่สุดในการท้าทายสิ่งที่ฝ่ายซ้ายกำลังทำอยู่"
ก่อนหน้าข่าวการตั้งข้อหาทรัมป์โดยคณะลูกขุนใหญ่ที่นิวยอร์ก เกินครึ่งหนึ่งของชาวพรรครีพับลิกันที่ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์กล่าวว่า พวกเขาไม่สนับสนุนทรัมป์แล้ว เพราะเขามีจุดอ่อนมากและหัวร้อนเกินไป และว่า จะเลือกตัวแทนพรรครีพับลิกันคนอื่นในการสรรหาผู้สมัครภายในไปแข่งกับเดโมเเครตในการชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ
รอยเตอร์รายงานว่า หากเกิดการดำเนินคดีทรัมป์ขึ้น กระบวนการดังกล่าวจะใช้เวลากว่าหนึ่งปี นั่นหมายความว่าทรัมป์คงต้องหาเสียงไปและเผชิญหน้ากับคดีความไปพร้อม ๆ กัน
ในบรรดาผู้ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ 35 คนในเนวาดา 20 คนเคยบอกว่า จะหันไปสนับสนุนเดอซานติสแทนทรัมป์ แต่ในเวลาต่อมา 14 คนจากกลุ่ม 20 ดังกล่าวระบุว่า การตั้งข้อหาที่เพิ่งเกิดขึ้นทำให้พวกเขาคิดกลับมาสนับสนุนทรัมป์อีกครั้ง
และหากพิจารณาถึงปฏิกิริยาจากนักการเมืองพรรครีพับลิกันในสภา รวมทั้งคนที่อาจเป็นคู่แข่งของทรัมป์ในการเลือกตั้งภายในพรรคเพื่อสรรหาตัวเเทนลงเลือกตั้งประธานาธิบดี ก็จะพบว่า ทรัมป์ยังมีอิทธิพลในพรรคไม่น้อย ส่วนหนึ่งเนื่องจากกลุ่มที่สนับสนุนหลักของเขาเป็นคนที่ชอบทรัมป์อย่างเหนียวแน่น
เเม้เเต่เดอซานติสเอง ซึ่งยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะลงเลือกตั้งเเข่งเป็นตัวเเทนรีพับลิกัน กล่าวว่าการตั้งข้อหาทรัมป์เป็นการกระทำที่ "ขัดกับค่านิยมอเมริกัน"
ทั้งนี้ โฆษกของเดอซานติสยังไม่เเสดงความคิดเห็นโดยทันทีต่อรอยเตอร์เมื่อถูกติดต่อไป
- ที่มา: รอยเตอร์
