'ลิโอเนล เมสซี' สร้างสถิติใหม่อีกครั้งในสัปดาห์นี้ หลังจากที่รูปภาพการฉลองถ้วยรางวัลฟุตบอลโลกของทีมอาร์เจนตินา ที่นักเตะชื่อดังได้โพสท์ลงบนอินสตาแกรมของเขา ได้กลายเป็นรูปที่ได้รับการคลิก ‘ไลค์’ มากที่สุด ทำลายสถิติที่รูปไข่ใบหนึ่งได้เคยทำเอาไว้เมื่อสี่ปีก่อน ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
เมสซีได้นำทีมชาติอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี โดยการเอาชนะทีมชาติฝรั่งเศสในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้แกลเลอรีภาพ หรือชุดภาพการเฉลิมฉลองแชมป์ฟุตบอลโลกที่เมสซีได้นำไปโพสท์นั้น มีผู้ใช้งานเข้ามาคลิกไลค์มากกว่า 72 ล้านคน ณ ตอนบ่ายของวันศุกร์ตามเวลาในสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ ภาพที่ได้รับการคลิกไลค์มากที่สุดบนอินสตาแกรม คือภาพสต็อกของไข่ฟองหนึ่ง บนพื้นหลังสีขาว โดยผู้ใช้ที่ใช้ชื่อบัญชีว่า @world_record_egg เป็นผู้โพสท์เอาไว้ในเดือนมกราคม ปี ค.ศ.2019 ซึ่งได้รับการคลิกไลค์ไปมากที่สุด 55.7 ล้านครั้ง
เมสซีโพสท์ข้อความไว้ใต้ชุดภาพทั้ง 10 ภาพว่า “แชมเปียนของโลก! ผมได้แต่ฝันถึงวันนี้ ผมอยากได้มาก ผมไม่อยากเชื่อเลย” หนึ่งในภาพเหล่านั้น คือภาพของเมสซีชูถ้วยรางวัลทองคำฟีฟ่าเวิร์ลด์คัพ และภาพการเฉลิมฉลองกับเพื่อนร่วมทีม
“ผมขอขอบคุณครอบครัวของผม และทุก ๆ คนที่สนับสนุนผมและคนที่เชื่อมั่นในพวกเรา เราได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งแล้วว่าชาวอาร์เจนตินา เมื่อเราสู้ด้วยกัน และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เราสามารถไปให้ถึงเป้าหมายได้”
กินเนส เวิร์ลด์ เรคคอร์ดส์ (Guinness World Records) ได้รวบรวมสถิติที่เมสซีได้ทำเอาไว้หลังจากรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก โดยระบุว่า นักเตะชาวอาร์เจนตินาวัย 35 ปี เป็นนักเตะที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกมากที่สุดในโลก ทั้งหมด 26 ครั้ง เอาชนะสถิติที่เคยทำไว้โดย โลธาร์ มัทเธอุส (Lothar Matthaus) นักเตะทีมชาติเยอรมนี
เมสซีเป็นนักฟุตบอลที่มีผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่ง และได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ถึง 7 ครั้ง เขาคว้าแชมป์ฟุตบอลอเมริกาใต้ โคปา อเมริกา (Copa America) และแชมป์การแข่งฟุตบอลลีกต่าง ๆ 11 ครั้ง อีกทั้งยังคว้าชัยแชมเปียนส์ลีก (Champions League) ได้อีก 4 ครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยได้มาก่อนคือ ถ้วยทองคำฟุตบอลโลก จนกระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่เขาทำประตูให้อาร์เจนตินาได้ 2 ประตู ก่อนที่อาร์เจนตินาจะชนะฝรั่งเศสในการยิงลูกโทษ ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเกมการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศที่น่าตื่นเต้นและเมามันที่สุดเท่าที่เคยมีมา
