องค์การอวกาศสหรัฐฯ หรือ นาซ่า (NASA) ตั้งเป้าว่าในพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐฯ ซึ่งเป็นวันเสาร์ จะสามารถปล่อยจรวดไปโคจรรอบดวงจันทร์ได้ หลังจากที่ซ่อมรอยรั่วและปรับการทำงานที่เกี่ยวกับเครื่องจับระดับพลังงาน ซึ่งเป็นปัญหาทำให้ต้องเลื่อนปฏิบัติการครั้งนี้ไป
การเดินทางครั้งเเรกของจรวด ขนาด 98 เมตร ซึ่งมีพลังงานขับเคลื่อนมากที่สุดของนาซ่า ถูกเลื่อนออกไปในวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ความหวังเริ่มกลับมาเมื่อเจ้าหน้าที่เเสดงความมั่นใจด้านเทคนิคและนักอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการส่วงจรวดอีกครั้ง
จรวด Space Launch System (SLS) น้ำหนัก 2.6 ล้านกิโลกรัม ความสูงเท่าตึก 32 ชั้น ใช้เวลาพัฒนานานกว่า 10 ปี โดยจะใช้บรรจุแคปซูล โอไรออน (Orion) ซึ่งจะมีหุ่นจำลองทีมนักบินอวกาศสามตัว และมีกำหนดโคจรรอบดวงจันทร์ ก่อนกลับมายังโลกในระยะเวลา 6 สัปดาห์
บิล เนลสัน ผู้บริหารสูงสุดของนาซ่า แถลงว่าเขามีความมั่นใจมากขึ้นต่อความพยายามครั้งที่สองที่กำลังจะเกิดขึ้น หลังจากที่วิศวกรนาซ่าได้ศึกษาบทเรียนจากความพยายามครั้งเเรก
เจสซิกา เมียร์ ผู้ที่เป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกพิจารณาให้เดินทางไปสำรวจดวงจันทร์ ในโครงการของนาซ่า กล่าวว่า "พวกเราตื่นเต้นมาก ...แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องทำทุกอย่างให้ทุกต้อง เพราะ งานในอนาคต จะมีมนุษย์เดินทางไปด้วย อาจจะเป็นตัวดิฉันเอง หรือเพื่ของดิฉัน"
โครงการสำรวจดวงจันทร์รอบใหม่ภายใต้โครงการ อาร์เตมิส (Artemis) ของนาซ่าครั้งนี้ มีกำหนดส่งมนุษย์ขึ้นไปกับจรวด ในอีกสองปีจากนี้ และหวังว่าจะสามารถนำนักบินอวกาศเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์อีกครั้งในปี 2025
ครั้งสุดท้ายที่นักบินอวกาศสามารถขึ้นไปเดินบนพื้นผิวดวงจันทร์ เกิดขึ้นเมื่อปี 1972 หรือ 50 ปีก่อน
- ที่มา: เอพี
