เป็นที่คาดการณ์กันว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ จะประกาศการตัดสินใจในการยกเลิกหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษา อย่างรวดเร็วที่สุดคือในวันพุธนี้ ตามรายงานของรอยเตอร์
ทั้งนี้ การระงับการชำระดอกเบี้ยและเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ภายใต้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯ จะหมดอายุลงในปลายเดือนสิงหาคมนี้ และผู้กู้ยืมไม่ต้องชำระคืนหนี้ดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 แล้ว
แต่ในมุมมองของนักเคลื่อนไหวเพื่อการบรรเทาภาระหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษาบางคน คาดหวังว่าคณะทำงานของปธน.ไบเดน จะขยายการระงับการชำระหนี้ดังกล่าวออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ ขณะที่จะประกาศแผนการยกเลิกหนี้มากถึง 10,000 ดอลลาร์ สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า 125,000 ดอลลาร์ต่อปี
มาตรการยกเลิกหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษากลายเป็นประเด็นสำคัญสำหรับผู้ที่มีแนวคิดเสรีนิยม และอาจเป็นประเด็นการพิจารณาที่สำคัญในการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ในปีนี้ โดยเฉพาะกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่เป็นคนหนุ่มสาวที่มีการศึกษาสูง ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่มีแนวโน้มจะสนับสนุนพรรคเดโมแครต
ส่วนผู้ที่คัดค้านแนวทางดังกล่าว ซึ่งรวมถึงนักการเมืองฝั่งรีพับลิกัน มองว่า มาตรการนี้มีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดเงินเฟ้อพุ่งสูง
ทั้งนี้ จากการศึกษาที่จัดทำโดยนักเศรษฐศาสตร์จากระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก พบว่า การยกเลิกหนี้ 10,000 ดอลลาร์ต่อหัวให้กับนักศึกษา จะช่วยล้างหนี้ดังกล่าวให้กับผู้คนราว 11.8 ล้านคน หรือราว 31% ของผู้ที่มีหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษาในสหรัฐฯ ซึ่งทางรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาสหรัฐฯ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า
หนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษาเป็นสิ่งที่ชาวอเมริกันในช่วงอายุ 25-34 ปีมี โดย 67% ของผู้กู้ยืมเพื่อการศึกษามีอายุต่ำกว่า 40 ปีกันทั้งสิ้น อ้างอิงจากข้อมูลของระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก
- ที่มา: รอยเตอร์